โควิด: วันที่ 1 มิ.ย. บีบีซี รายงานว่า เปรู ชาติในอเมริกาใต้ ปรับยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเกือบ 3 เท่า จาก 69,342 ราย เป็น 180,764 ราย ในประเทศที่มีประชากรราว 33 ล้านคน กลายเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในโลกต่อหัวประชากร ตามข้อมูลมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์
หรือเสียชีวิตมากกว่า 500 ราย ต่อหัวประชากร 100,000 คน แซงฮังการีที่มีผู้เสียชีวิต 300 ราย ต่อ 100,000 คน ส่วนโคลอมเบีย เพื่อนบ้านเปรูที่มีประชากรเยอะกว่า มีผู้เสียชีวิต 88,282 ราย ขณะที่บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลกมากกว่า 460,000 ราย แต่มีประชากรมากกว่า 211 ล้านคน
นายกรัฐมนตรีบิโอเลตา เบร์มูเดซ กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากเปรูและนานาชาติ สอดคล้องกับตัวเลข “การเสียชีวิตส่วนเกิน” ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่า ผู้เสียชีวิตมากกว่าที่คาดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“เราคิดว่านี่เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลปรับปรุงใหม่นี้ต่อสาธารณะ” นายกรัฐมนตรีเบร์มูเดซกล่าวถึงข่าวซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 31 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เพียง 6 วัน ก่อนเปรูจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีนอกรอบ
เปรูเป็นหนึ่งในประเทศละตินอเมริกาที่เผชิญโควิด-19 รุนแรงที่สุด ส่งผลให้ระบบการดูแลสุขภาพล่มและถังออกซิเจนขาดแคลน
เกณฑ์การบันทึกการเสียชีวิตจากโควิดตอนนี้ขยายขอบเขตออกไปกว้างขึ้น นอกเหนือจากผู้มีผลการตรวจโควิดเป็นบวก แต่รวมเคสที่มีความเป็นไปได้ของผู้มีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยากับเคสที่ได้รับการยืนยันแล้ว หรือผู้มีอาการทางคลินิกสอดคล้องกับโควิด
นพ.โกโดเฟรโด ตาลาเวรา ประธานสหพันธ์แพทย์เปรู กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่สิ่งน่าแปลกใจ “เราเชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากระบบสาธารณสุขของเราไม่มีเงื่อนไขจำเป็นต่อการดูแลผู้ป่วย ไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งออกซิเจน กับเตียงนอนผู้ป่วยไอซียู เราไม่มีวัคซีนเพียงพอตอนนี้ สายหลักของการดูแลผู้ป่วยไม่กลับมาฟื้นตัว ทั้งหมดนี้ทำให้เรากลายเป็นประเทศแรกในโลกที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โควิด: เปรู บังคับสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น หากอยู่ในสถานที่คนพลุกพล่าน