นักโทษมะกันป่วยจิตเภทสำนึกผิด คดียิงดับพ่อแม่-กราดยิงร.ร.ตายเจ็บอื้อ
นักโทษมะกันป่วยจิตเภทสำนึกผิด – วันที่ 14 มิ.ย. เอพีรายงานว่า นายคิป คินเคล นักโทษชาวอเมริกันที่ถูกจำคุกตลอดชีวิตจากคดีสะเทือนขวัญยิงพ่อแม่เสียชีวิตและกราดยิงที่สถานศึกษารัฐโอเรกอน มีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย บาดเจ็บ 25 คน เมื่อปี 2541 ระบุว่า รู้สึกละอายและผิดบาปมาก
นายคินเคล ก่อเหตุดังกล่าวเมื่ออายุได้เพียง 15 ปี โดยป่วยเป็นโรคจิตเภทแบบหวาดระแวง (Paranoid Schizophrenia) แต่ไม่มีใครทราบ ปัจจุบัน อายุ 38 ปี รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ให้สัมภาษณ์ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา รวม 20 ชั่วโมง กล่าวว่า ตนรู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง และรู้สึกผิดบาปต่อการกระทำของตัวเอง
นายคินเคล กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนได้ก่อไว้นั้นส่งผลกระทบต่อเหยื่อและครอบครัวของผู้บาดเจ็บ ซึ่งหยิบยกคดีของตนมาเป็นตัวอย่างในการต่อต้านการปฏิรูประบบยุติธรรมและโทษสำหรับผู้เยาว์ ส่งผลให้ผู้เยาว์ที่ต้องคดีคนอื่นๆ เสียโอกาสที่จะได้กลับตัวกลับใจ
“ผมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมก่อไว้เมื่อตอนผมอายุ 15 ปี และแม้ตอนนี้ผมอายุ 38 แล้ว แต่ก็ยังต้องแสดงความรับผิดชอบต่อผลพวงที่ผมได้ก่อไว้ครับ” คินเคล ระบุ
คินเคล เปิดใจกับสำนักข่าวเอพีถึงเหตุสะเทือนขวัญ ว่าตนได้เริ่มได้ยินเสียงแว่วเมื่อตอนอายุ 12 ปี ทำให้เริ่มหมกมุ่นกับอาวุธ เช่น มีด ปืน และระเบิด รวมทั้งเชื่อว่ากองทัพจีนจะมารุกรานสหรัฐฯ ตลอดจนรัฐบาลสหรัฐฯ กับบริษัทวอลต์ ดิสนีย์ ร่วมกันฝังชิพไว้ในศีรษะของตน
ต่อมาถูกทางโรงเรียนเธอร์สตัน ไฮ สคูล ที่ศึกษาอยู่จับได้ ว่าแอบพกปืนไปโรงเรียน หลังตนซื้อปืนที่เพื่อนขโมยมา ทำให้ชีวิตประสบภาวะวิกฤต เพราะจะถูกสถานศึกษาไล่ออก และข้อหาจากทางตำรวจ เสียงในหัวของตนทำให้เชื่อว่า ทางออกคือจะต้องฆ่าพ่อแม่และคนที่โรงเรียนให้หมด
วันต่อมานายคินเคลก่อเหตุใช้อาวุธปืนสังหารพ่อแม่ในบ้าน และเดินทางไปเปิดฉากกราดยิงที่โรงอาหาร มีเพื่อนนักเรียนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 25 คน แต่นายคินเคลถูกเพื่อนๆ ที่เหลือรุมจับตัว
คินเคลสารภาพต่อศาล เนื่องจากไม่ต้องการอับอายจากการถูกตราหน้าว่าเป็นคนป่วยวิกลจริต รวมทั้งขอขมาต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ศาลพิพากษาจำคุก 112 ปี
“ผมรู้สึกละอายอย่างมากที่สุด และผิดบาปต่อสิ่งที่ผมทำ” และว่า “ผมเกลียดความรุนแรงที่ผมได้ก่อไว้เหลือเกิน” นายคินเคล ระบุ
นางสาวเบตินา ลินน์ หนึ่งในเหยื่อกระสุนของนายคินเคล ระบุว่า เพียงความคิดที่ว่านายคินเคลอาจได้รับการปล่อยตัวออกมาก็ทำให้ตนสยอสยองอย่างมาก เพราะแม้เวลาจะผ่านมาถึง 23 ปีแล้ว ตนกับผู้รอดชีวิตทุกคนยังคงต้องเผชิญกับผลพวงจากการกระทำของคินเคล
คินเคล ระบุว่า ตนได้รับการบำบัดทางจิตและระหว่างการรับโทษได้ยอมรับว่าสิ่งที่ก่อขึ้นนั้นได้ทำลายชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และพรากชีวิตของพ่อแม่ที่ตัวเองรัก อีกทั้งตนยังร้องไห้เมื่อได้ทราบถึงเหตุกราดยิงปี 2542 ที่รัฐโคโลราโด โดยมือปืนได้รับแรงบันดาลใจมาจากตน
นอกจากนี้ คินเคล ซึ่งได้เรียนปริญญาตรีจนสำเร็จขณะรับโทษในคุก และต่อสู้คดีของตัวเองต่อในชั้นศาล โดยทนายความของคินเคล แย้งว่า การตัดสินให้ผู้เยาว์ที่ป่วยเป็นโรคจิตเภทต้องเสียชีวิตในคุกนั้นฝ่าฝืนมาตรา 8 แห่งรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การปฏิรูปกฎหมายของสภารัฐโอเรกอน กำหนดให้ยุติการนำบุคคลอายุ 15-17 ปี ไปพิพากษาในศาลที่ไม่ใช่ศาลผู้เยาว์ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอายุช่วงนี้ที่กระทำผิดต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต และเสียโอกาสกลับตัวกลับใจจากการขอปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษ