ธนาคารโลก – วันที่ 17 มิ.ย. บีบีซี รายงานว่า ธนาคารโลกปฏิเสธคำร้องจากเอลซัลวาดอร์ ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อช่วยดำเนินการให้บิตคอยน์ สกุลเงินดิจิตอล เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยอ้างข้อกังวลเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการขุดบิตคอยน์
หลังเอลซัลวาดอร์ประกาศแผนที่จะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะใช้บิตคอยน์อย่างเป็นทางการ โดยใช้เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ควบคู่ไปกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของธนาคารโลกครั้งนี้เท่ากับว่า เอลซัลวาดอร์เผชิญปัญหาในการกำหนดเส้นตายที่จะบิตคอยน์ได้รับการยอมรับทั่วประเทศในอีกสามเดือนข้างหน้า
“เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเอลซัลวาดอร์ในหลายด้าน รวมถึงเพื่อความโปร่งใสของสกุลเงินและกระบวนการกำกับดูแล แม้ว่ารัฐบาลเอลซัลวาดอร์ขอความช่วยเหลือเราเรื่องบิตคอยน์ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ธนาคารโลกสามารถสนับสนุนได้ เนื่องจากข้อบกพร่องทางสิ่งแวดล้อมและความโปร่งใส” โฆษกธนาคารโลกบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ทางอีเมล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังนายอาเลฆันโดร เซลายา รัฐมนตรีพาณิชย์เอลซัลวาดอร์ กล่าวเมื่อวันพุธที่ 16 มิ.ย. ว่า ประเทศขอให้ธนาคารโลกช่วยเหลือทางเทคนิคในการทำให้บิตคอยน์เป็นวิธีการชำระเงินอย่างเป็นทางการ
นายเซลายายังกล่าวว่า การหารือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ประสบความสำเร็จ โดยกล่าวว่า ไอเอ็มเอฟ “ไม่ต่อต้าน” การนำบิตคอยน์มาใช้ ทว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า เห็นปัญหาเศรษฐกิจมหภาค การเงิน และกฎหมาย หากเอลซัลวาดอร์นำบิตคอยน์มาใช้
เมื่อสัปดาห์ก่อน เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่จัดให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินถูกต้องตามกฎหมายอย่างเป็นทางการ โดยคองเกรสอนุมัติข้อเสนอของประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล ที่จะยอมรับสกุลเงินดิจิตอลนี้
ผู้นำเอลซัลวาดอร์กล่าวว่า รัฐบาลสร้างประวัติศาสตร์ และว่าความเคลื่อนไหวนี้จะทำให้ชาวเอลซัลวาดอร์ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศส่งเงินกลับบ้านเกิดง่ายดายขึ้น
ภายใต้กฎหมายดังกล่าว บิตคอยน์จะกลายเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายควบคู่ไปกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 90 วัน หลังได้รับการอนุมัติจากคองเกรส เท่ากับว่า ทุกธุรกิจต้องยอมรับบิตคอยน์สำหรับซื้อสินค้าหรือบริการ เว้นแต่ไม่สามารถจัดหาเทคโนโลยีจำเป็นในการทำธุรกรรมได้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์พึ่งพาเงินที่ชาวเอลซัลวาดอร์อาศัยอยู่นอกประเทศและส่งกลับมาบ้านเกิดอย่างมาก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของเอลซัลวาดอร์
ในปัจจุบัน ชาวซัลวาดอร์มากกว่า 2 ล้านคนอาศัยอยู่นอกประเทศ แต่ยังรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบ้านเกิด โดยส่งเงินคืนกลับมาบ้านเกิดปีละมากกว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 125,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ที่แรกในโลก เอลซัลวาดอร์ อนุมัติ “บิตคอยน์” เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย