สเตฟาน เลิฟเวียน นายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายกลางของสวีเดน ถูกขับออกจากตำแหน่งในการลง ญัตติไม่ไว้วางใจ ในรัฐสภา หลังจากอยู่ในอำนาจมาเกือบ 7 ปี

Reuters

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า นาย สเตฟาน เลิฟเวียน นายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายกลางของสวีเดน ถูกขับออกจากตำแหน่งในการลงญัตติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ (21 มิ.ย.64) ส่งผลให้ประเทศตกอยู่ในความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ซับซ้อน ขณะที่รัฐบาลต้องจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปด้วย

นาย เลิฟเวียน ถูกขับออกจากตำแหน่ง หลังจากอยู่ในอำนาจมาเกือบ 7 ปี โดย นาย เลิฟเวียน สนับสนุนแผนผ่อนปรนการควบคุมค่าเช่าอพาร์ทเมนท์สร้างใหม่ ทำให้หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยและลงญัตติไม่ไว้วางใจ เขามีเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการลาออกและมอบหมายงาน โดยอาจมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือให้มีการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด (ตามปกติจะมีขึ้นในปี พ.ศ.2565)

Reuters

รัฐสภาเกิดสภาวะหยุดชะงักและนำไปสู่ปัญหาทางการเมืองที่ซับซ้อน เนื่องจากผลการลงคะแนนเสียงแสดงให้เห็นว่ากลุ่มขวากลาง และซ้ายกลางนั้นมีคะแนนเสียงที่ใกล้เคียงกัน ทำให้คาดว่าวิกฤตทางการเมืองน่าจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจนัก

“ขณะนี้รัฐบาลมีเวลาตัดสินใจหนึ่งสัปดาห์ และเราจะจัดการเจรจากับฝ่ายความร่วมมือของเรา” นาย เลิฟเวียน กล่าวในการแถลงข่าวหลังจากการลงญัตติไม่ไว้วางใจ และกล่าวเสริมว่า “สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับประเทศคือสิ่งที่ดีที่สุด เราจะทำงานให้เร็วที่สุด”

Reuters

พรรคเดโมแครตสวีเดน ซึ่งเป็นพรรคที่มีแนวคิดชาตินิยม เป็นผู้เสนอให้มีการลงญัตติไม่ไว้วางใจ หลังจากที่ พรรคฝ่ายซ้ายถอนการสนับสนุน ซึ่งนำโดยพรรคโซเชียลเดโมแครตของ นาย เลิฟเวียน ในเรื่องการปฏิรูปการควบคุมค่าเช่า ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายจับตามอง

การอภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจ จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียง 175 คะแนนในรัฐสภาจาก 349 คะแนนเสียงจึงจะผ่านได้ โดยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสวีเดนลงมติที่คะแนน 181 เสียงจากทั้งหมด 349 เสียง ในญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีสเตฟาน เลิฟเวียน

ส่งผลให้ นาย เลิฟเวียน เป็นนายกรัฐมนตรีสวีเดนคนแรกที่ถูกขับออกจากการพ่ายญัตติไม่ไว้วางใจที่เสนอโดยฝ่ายค้าน และหมายความว่า นาย เลิฟเวียน จะต้องลาออกจากตำแหน่งหรือประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งก่อนเวลาที่กำหนด

Reuters

จากสภาวะการเมืองที่ไม่มั่นคง จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเลือกพรรคใดเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงมีการสำรวจความคิดเห็นที่ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งหลังยุบสภาในทันทีอาจไม่ใช่ทางออกเช่นกัน

นาย เลิฟเวียน ขึ้นดำรงตำแหน่งในสมัยที่สองในปี พ.ศ.2561 หลังจากมีการเจรจาเป็นเวลาหลายเดือน หลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเดโมแครตสวีเดน (ฝ่ายขวาจัด) ที่ต่อต้านการอพยพของสวีเดน ได้อำนาจการต่อรองอย่างมหาศาล ทำให้ตั้งแต่นั้นมา นาย เลิฟเวียน กลายเป็นผู้นำรัฐบาลเสียงส่วนน้อยที่เปราะบางของพรรคโซเชียลเดโมแครตและพรรคกรีน โดยได้รับการสนับสนุนจากอดีตคู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคเซ็นเตอร์และพรรคลิเบอรัล และยังต้องได้รับการอนุมัติโดยงดออกเสียงจากฝ่ายซ้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน