ญี่ปุ่นฉีดวัคซีน รายวันแตะหลักล้าน ถูกวิจารณ์ ฉีดช้าในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยรัฐบาลแจกจ่ายวัคซีนให้ บริษัทและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ดำเนินการฉีดวัคซีนได้เอง
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.64 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูล ในวันพุธ (23 มิ.ย.64) ว่าขณะนี้อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รายวันของญี่ปุ่นฉีดได้สูงถึง 1 ล้านโดสต่อวัน โดยทางการญี่ปุ่นพยายามอย่างหนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้สูญเสียเวลาในขั้นดำเนินการอนุมัติการใช้วัคซีนไปเป็นเวลานาน
นาย โยชิฮิเดะ สึกะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำหนดอัตราการฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 1 ล้านโดส โดยเรียกว่า เป็นระดับสำคัญ-วิกฤต เพื่อผลักดันให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรสูงอายุจำนวนมากของประเทศเป็นไปตามเป้าหมายภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 และครอบคลุมประชากรในวัยผู้ใหญ่ทุกคน ภายในเดือนพฤศจิกายน 2564
การรณรงค์การฉีดวัคซีนถูกผลักดันอย่างมาก รัฐบาลมีการแจกจ่ายวัคซีนและส่งเสริมการเปิดสถานที่ฉีดวัคซีน ในบริษัท-สถานที่ทำงานต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย ฯลฯ ตั้งแต่วันจันทร์ (14 มิ.ย.64) ที่ผ่านมา ซึ่งจากการเปิดให้รับการฉีดวัคซีนในวันแรก สามารถฉีดได้ถึง 1,013,061 โดส และต่ำกว่า 1 ล้านโดส อยู่เล็กน้อยในวันอื่น ๆ ในสัปดาห์เดียวกัน ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างยิ่ง ที่จะฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผน วันละ 1 ล้านโดส
โดยจากประชากร 125 ล้านคน มีเพียงร้อยละ 18 ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุดของประเทศในกลุ่มที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือนก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในกรุงโตเกียว ก่อนหน้านี้การแข่งขันโอลิมปิก ค.ศ. 2020 มีความล่าช้าและเลื่อนกำหนดการออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
การรณรงค์ให้วัคซีนโควิดของญี่ปุ่นเริ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งนับว่าตามหลังประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยในช่วงแรกมีความล่าช้าเนื่องจากติดปัญหาปริมาณวัคซีนนำเข้ายังไม่เพียงพอ และถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการขาดแคลนวัคซีนนำเข้าแล้ว แต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติหน้าที่ระดมการฉีดวัคซีน รวมถึงอุปสรรคด้านการขนส่ง
ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุญาตให้ทันตแพทย์ และอดีตพยาบาลที่เกษียณอายุหรือออกจากงานไป สามารถมาช่วยฉีดวัคซีนได้ แต่ไม่ได้เป็นการบังคับหรือขอความร่วมมือแต่อย่างใด นอกจากนี้ รัฐบาลได้เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ ที่ดำเนินการโดยกระทรวงกลาโหม และผ่อนคลายกฎเกณฑ์สำหรับผู้รับวัคซีนและผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนลง เพื่อสนับสนุนให้มีผู้มารับฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น