จีนเดินหน้าสอยยักษ์ไอทีต่อเนื่อง ฟุ้งปกป้องข้อมูลส่วนตัวประชาชน

จีนเดินหน้าสอยยักษ์ไอทีต่อเนื่อง ฟุ้งปกป้องข้อมูลส่วนตัวประชาชน

จีนเดินหน้าสอยยักษ์ไอทีต่อเนื่อง – วันที่ 5 ก.ค. ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานว่า สำนักงานไซเบอร์สเปซ ประเทศจีน หรือซีเอซี ดำเนินการสอบสวนบริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีอีก 2 แห่ง ได้แก่ แอพพลิเคชั่นสมัครงาน Boss Zhipin และแอพเรียกรถรับจ้าง Full Truck Alliance

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทางการจีนเพิ่งดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับแอพเรียกแท็กซี่ยอดนิยมอย่าง ตีตี ชูสิง – Didi Chuxing โดยทั้งหมดถูกสั่งให้ปิดการลงทะเบียนและถอนแอพออกเพื่อไม่ให้ดาวน์โหลดแล้ว

The ride-hailing app Didi is seen near other Chinese apps on a phone in Beijing on Monday, July 5, 2021. (AP Photo/Ng Han Guan)

การดำเนินการนี้ส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมไปทั่วทวีปเอเชีย อาทิ เครือธนาคารซอฟท์แบงค์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีกองทุน Vision Fund เป็นหุ้นส่วนของ Didi มีมูลค่าหุ้นลดลงร้อยละ 5.4 ขณะที่เครือ Alibaba และ Tencent มูลค่าหุ้นลดลงร้อยละ 2.9 และ 3.7 ตามลำดับ ในตลาดหุ้นฮ่องกง

มูลค่าหุ้นของ Didi ร่วงลงร้อยละ 5.3 เช่นกัน เพียง 2 วัน หลัง Didi เพิ่งเปิดตัวในตลาดหุ้นนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาด้วยมูลค่า 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.4 แสนล้านล้านบาท เป็นสถิติมูลค่าเปิดตัวสูงสุดของบริษัทสัญชาติจีนในตลาดหุ้นนิวยอร์กหลักจาก Alibaba เคยทำสถิติไว้ใน 2557

Men look at a smartphone in Beijing on Monday, July 5, 2021. (AP Photo/Ng Han Guan)

การดำเนินการดังกล่าวของทางการจีน ถือเป็นการใช้ระเบียบเข้ามาจัดการกับบรรดายักษ์ใหญ่วงการไอทีระลอกใหม่ ต่อจากยักษ์ใหญ่อย่าง Ant Group และ Alibaba เสาหลักแห่งอำนาจของอภิมหาเศรษฐี แจ๊ก หม่า รวมถึงธุรกิจซื้อขายออนไลน์ Meituan

บรรดายักษ์ใหญ่ไอทีที่ถูกทางการจีนเข้าตรวจสอบนั้นล้วนเป็นธุรกิจที่เข้าจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เช่น Full Truck Alliance กวาดรายได้ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท ส่วน Boss Zhipin กวาดรายได้ 912 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท รวมถึง Didi ด้วย

China’s State Administration for Market Regulation (SAMR) has slapped a fine of 18.23 billion yuan ($2.78 billion) on Alibaba Group for indulging in a monopolistic act of abusing its dominant market position /CFP

รายงานระบุว่า กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 แห่ง ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจแนวหน้าของอุตสาหกรรมไอทีจีน ซึ่งมีบริษัทสนับสนุนหลัก คือ Tencent เอกชนทางเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดในจีนและของโลกทางด้านเกม โดยในส่วนของ Tencent รอดพ้นการถูกดำเนินการจากทางการจีนไปอย่างหวุดหวิด

ซีเอซี ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวอาศัยอำนาจตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อ 1 มิ.ย. มีเนื้อหาเพิ่มอำนาจการกำกับกิจการเอกชนให้กับทางการจีน โดยเฉพาะกับเอกชนที่ทำธุรกิจไอทีที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ

A woman looks at her smartphone at a mall in Beijing, Monday, July 5, 2021. (AP Photo/Ng Han Guan)

นางเคนดรา เชเฟอร์ นักวิเคราะห์เทคโนโลยีจาก Trivium ที่กรุงปักกิ่ง ระบุว่า แถลงการณ์ของซีเอซีระบุชัดเจนว่าสิ่งที่บรรดาเอกชนไอทีจีนต้องดำเนินการก่อนไปเปิดกิจการในต่างแดน คือต้องมีมาตรการด้านการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ชาวจีนที่รัดกุมเสียก่อน

“สาระสำคัญก็คือ จะไปเปิดไอพีโอต่างแดนไม่ว่ากัน แต่จัดการตัวเองให้เป็นไปตามระเบียบของรัฐบาลเสียก่อน” เชเฟอร์ ระบุ

โกลบอล ไทมส์ หนึ่งในสื่อกระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า Didi ซึ่งมีหนึ่งในผู้ถือหุ้นต่างชาติ หนึ่งในนั้นเป็น Uber สัญชาติอเมริกัน การดำเนินการเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ชาวจีนจึงถือเป็นปัญหาความมั่นคงของชาติ

FILE – Chinese ride-hailing service Didi Chuxing at the Global Mobile Internet Conference (GMIC) in Beijing. (AP Photo/Mark Schiefelbein,File)

บทบรรณาธิการโกลบอล ไทมส์ ระบุอีกว่า “ยักษ์ใหญ่ด้านอินเตอร์เน็ตจะมีอำนาจสิทธิขาดเหนือบิ๊กดาต้าไม่ได้ นั่นคือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ชาวจีน”

ทั้งนี้ การดำเนินการระลอกใหม่นี้เริ่มมาตั้งแต่ 2 ก.ค. หลังซีเอซีมีคำสั่งให้ Didi ยุติการเปิดรับลงทะเบียนผู้ใช้และไม่ให้เปิดให้ดาวน์โหลดแอพได้ระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่ทาง Didi แถลงว่า พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของทางการจีนอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ