เพนตากอนล้มสัญญาเจได – เอพี รายงานวันที่ 7 ก.ค. ว่า กระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา หรือ เพนตากอน แถลงยกเลิกสัญญาว่าจ้างบริการระบบคลาวด์ คอมพิวเตอร์ โครงการ JEDI กับบริษัท ไมโครซอฟท์ มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 320,000 ล้านบาท ระยะ 10 ปีที่ทำไว้สมัยโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2019 หรือ พ.ศ. 2562
ขณะเดียวกันเพนตากอนเสนอข้อตกลงใหม่ว่าจะให้ไมโครซอฟท์ แอมะซอน และผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นๆ เข้ามาดำเนินการด้วย
“ด้วยการเคลื่อนตัวของสิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยี ชัดเจนว่า สัญญาคลาวด์เจได ที่ล่าช้ามานาน ไม่รองรับความต้องการให้เติมเต็มช่องว่างในศักยภาพของระบบกระทรวงกลาโหม” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ของเพนตากอนไม่ได้ระบุถึงข้อขัดแย้งก่อนหน้านี้ที่บริษัทแอมะซอน ฟ้องร้องว่าการที่เพนตากอนทำสัญญาแรกเริ่มกับไมโครซอฟท์ มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ หรือราว 32 ล้านบาท มาจากแรงจูงใจทางการเมือง โดยเฉพาะจากนายทรัมป์ ตอนที่เป็นประธานาธิบดี แสดงตนเป็นปรปักษ์กับ นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของแอมะซอน
FILE – This March 27, 2008, file photo, shows the Pentagon in Washington. (AP Photo/Charles Dharapak, File)
นายจอห์น เชอร์แมน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลข่าวสารของเพนตากอน กล่าวว่า การต่อสู้ทางกฎหมายอันยืดยาวกับแอมะซอน มาถึงตอนนี้ปัจจัยต่างๆ ค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความเป็นไปได้ในรูปแบบใหม่ ที่จะเริ่มค้นหาผู้ให้บริการหลากหลายเจ้า
นายเชอร์แมนกล่าวด้วยว่า ระบบเจไดจะถูกแทนที่ด้วยโปรแกรมใหม่ชื่อ Joint Warfighter Cloud Capability ซึ่งดูเหมือนว่า ทั้งไมโครซอฟท์ และแอมะซอน ต่างจะได้ทำสัญญาด้วยทั้งสองบริษัท รวมถึงอาจจะมีผู้ให้บริการระบบคลาวด์อีก 3 รายใหญ่ ได้แก่ กูเกิล ไอบีเอ็ม และออราเคิล เข้าร่วมด้วย
สำหรับโครงการเจไดที่ล้มไป เดิมเริ่มต้นด้วยสัญญา 1 ล้านดอลลาร์ กับไมโครซอฟท์ เพื่อเป็นขั้นตอนแรกที่ปูทางไปสู่สัญญา 10 ปี ที่มีมูลค่าถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนการทำสัญญาใหม่จะใช้ระยะเวลาลดลงเหลือ 5 ปี และยังไม่กำหนดมูลค่ารวม เพราะรัฐบาลจะต้องเจรจากับไมโครซอฟท์เพื่อจ่ายค่ายุติสัญญาเดิม ปี 2019 ก่อน
โครงการเจได มีชื่อเหมือนตัวละครในภาพยนตร์สงครามอวกาศ Star Wars แต่แท้จริงแล้ว เป็นตัวย่อมาจากโครงการ Joint Enterprise Defense Infrastructure เพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและการสื่อสารระหว่างทหารในสมรภูมิ ไปจนถึงการใช้เอไอเพิ่มศักยภาพในการวางแผนและการรบ
