สาธารณสุขมาเลเซีย จ่อเลิกใช้ ‘ซิโนแวค’ หากหมดล็อต หลังมีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ เตรียมดัน ‘ไฟเซอร์’ เป็นวัคซีนหลัก นำเข้าแล้ว 45 ล้านโดส ครอบคลุม 70% ของประชากร
วันที่ 15 ก.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียประกาศว่าจะหยุดใช้วัคซีนยี่ห้อ ‘ซิโนแวค’ จากจีน ทันทีที่วัคซีนที่สั่งซื้อไว้แล้วนั้นหมดลง เนื่องจากมีวัคซีนชนิดอื่นเพียงพอแล้ว และจะเปลี่ยนมาเดินหน้าฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์เป็นวัคซีนหลักแทน
นายอัดฮาม บาบา รมว.สาธารณสุขของมาเลเซียกล่าวว่า ตอนนี้ประเทศมาเลเซียนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แล้ว 45 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอและครอบคลุม 70% ของประชากรภายในประเทศ ขณะที่มาเลเซียได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 16 ล้านโดส
ส่วนวัคซีนซิโนแวคที่เหลือ คาดว่าจะสามารถใช้ฉีดครอบคลุมสำหรับผู้ที่ต้องฉีดเป็นเข็มที่ 2 และสำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะได้รับวัคซีนของไฟเซอร์
ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านโดส เป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงซึ่งจะให้บริษัท ฟาร์มาเนียกา ทำหน้าที่บรรจุและปิดผนึกวัคซีนเพื่อแจกจ่ายในประเทศ
ทั้งนี้การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคในการต่อต้านไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตา และการแพร่ระบาดในประเทศที่มีเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
โดยในเวลานี้นอกจากไฟเซอร์และซิโนแวคแล้วนั้น ทางการมาเลเซียยังได้อนุมัติการใช้วัคซีน แอสตราเซนเนกา แคนซิโน และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อีกทั้งยังเตรียมพิจาณาอนุมัติใช้งานวัคซีนซิโนฟาร์มจากจีนด้วย
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 880,782 ราย และมีผู้เสียชีวิต 6,613 ราย โดยมาเลเซียนั้นมีอัตราการติดเชื้อต่อหัวประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็มีการฉีดวัคซีนสูงสุดแห่งหนึ่งด้วยเช่นกัน จากจำนวนประชากร 32 ล้านคน มีผู้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสไปแล้วราว 26%