สภา-กองทัพเมียนมา เปิดบริจาคซื้อวัคซีน จากทั่วประเทศ แต่แทบไม่มีผู้บริจาค ชาวบ้านลั่น ยอมสิ้นชีพยังดีเสียกว่า ชี้ความช่วยเหลือจากนานาชาติเข้าไม่ถึงประชาชน
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2564 หนิน ยาดานา ซอ โปรดิวเซอร์แห่งสำนักข่าวอัลจาซีรา มีเดีย เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นอดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ประจำเมียนมา ได้ออกมาทวีตภาพพร้อมข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียทวิตเตอร์ ในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2564 โดยระบุว่า
“สภาบริหารรัฐของเมียนมา ได้เปิดขอรับบริจาคจากประชาชน เพื่อจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยตั้งแต่เปิดรับบริจาค จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2564 กลับมีประชาชนเพียงคนเดียวที่บริจาคเงินจำนวน 100,000 จ๊าดเมียนมา (ประมาณ 2,500 บาท) ขอถามหน่อยว่า คุณจะปกครองคนที่ยอมตายจากโควิด-19 ดีกว่ายอมสนับสนุนคุณอย่างไรกันหรือ ?”
“ขณะที่ประชาชนกลุ่มเดียวกัน ช่วยกันระดมทุนหลายล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการฉีดวัคซีน ที่นำโดยรัฐบาลพลเรือน แต่ถูกกองทัพ-สภาบริหารรัฐเมียนมาขับไล่ และ เข้ายึดเงินทุนดังกล่าว (อย่างเปิดเผย) นับตั้งแต่รัฐประหาร 1 กุมภาพันธ์ 2564”
ต่อมาในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 หนิน ยาดานาซอ ได้ทวีตข้อความเพิ่มเติมว่า “สถานทูตญี่ปุ่นในเมียนมา เปิดเผยว่า จะจัดหาเครื่องผลิตออกซิเจนจำนวน 700 เครื่อง ผ่านการดำเนินงานของสำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ และรถพยาบาล 14 คัน แก่ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ในเมียนมาเพื่อเป็นการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับการระบาดของโควิด-19”
ขณะเดียวกัน มีชาวเน็ตเมียนมาเข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากผ่านทวิตเตอร์ของ หนิน ยาดานา ซอ เช่น มีแหล่งข่าวจำนวนหนึ่งระบุว่า ความช่วยเหลือจากนานาชาติถูกจำกัดและขัดขวางจากกองทัพเมียนมา , การให้ความช่วยเหลือประชาชนใน เมืองมินดัท ในรัฐชิน ก็ถูกรายงานว่าความช่วยเหลือไปไม่ถึงประชาชน , ความช่วยเหลือจากนานาชาติต้องถูกส่งไปที่ประชาชน ไม่ใช่ส่งไปที่กองทัพเมียนมา , จำนวนเงินในภาพอาจจะเป็นคำสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคก็เป็นได้ เป็นต้น
Demonstrators torch a mock coffin with pictures of Myanmar’s army ruler Min Aung Hlaing on his birthday in Mandalay, Myanmar July 3, 2021. Time For Revolution/Handout via REUTERS
