เมียนมาวิกฤต เดลต้าบุก ดับทะลุ 2,000 ราย ในสามสัปดาห์
สถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมียนมายังคงอยู่ในขั้นวิกฤต เข้าสู่อาทิตย์ที่ 3 ของเดือนก.ค. มียอดผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2,000 ราย นับเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่การตรวจพบเชื้อไวรัสครั้งแรกในปี 2563
เว็บไซต์ข่าว อิรวดี รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 20 ก.ค. ประชาชนเมียนมาเสียชีวิตจากโควิด-19 กว่า แล้ว 5,567 ราย นับตั้งแต่มี.ค.ประเทศเมียนมาต้องเจอกับวิกฤตการระบาดระลอกที่ 3 ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็น 40.11 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ย่างกุ้ง เป็นอีกหนึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในประเทศ ผู้ป่วยหลายรายเสียชีวิตจากขาดเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากระบบการรักษาพยาบาลของเมียนมายังไม่สามารถรับมือโควิดเชื้อสายเดลต้าได้ ทางสำนักข่าวได้รายงานว่าระบบสาธารณะสุขของเมียนมานั้นได้ล่มสลายไปตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. ในช่วงรัฐประหารแล้ว
เนื่องจากทางฝ่ายรัฐบาลทหารได้ออกหมายจับกุมบุคลากรทางการแพทย์หลายคน ที่ปฏิเสธที่จะทำงานภายใต้การปกครองของทหาร ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายโรงพยาบาลขาดแคลนบุคลากรและไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้
รัฐบาลทหารยังตั้งกฎข้อจำกัดเกี่ยวกับโรงผลิตออกซิเจน โดยสั่งไม่ให้เติมถังสำหรับใช้ส่วนตัว ทางการให้เหตุผลว่าผู้คนทำลังนำออกซิเจนไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลกลับกำลังนำเข้าออกซิเจนเหลวจากประเทศเพื่อนบ้านโดยอ้างว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.มิน ออง หล่าย ได้ปราศรัยในวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ตอนนี้กำลังมีวัคซีนเดินทางมาจากประเทศจีนเพิ่มอีกภายในสุดสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะฉีดให้ครบจำนวนประชากรเมียนมา 54 ล้านคนภายในสิ้นปี
ที่มา irrawaddy.com
