หนุนจีนปราบโควิดเป็นศูนย์ อดีตรมว.สธ.ค้านแนวคิดอยู่ร่วมกับไวรัส

หนุนจีนปราบโควิดเป็นศูนย์ – วันที่ 9 ส.ค. เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า นายเกา เชียง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจีน สนับสนุนให้ทางการจีนเดินหน้ายุทธศาสตร์กวาดล้างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 อย่างราบคาบ

ความเห็นของนายเกา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุขระหว่างปี 2548 ถึง 2550 นั้นสวนทางกันกับของนายจาง เหวินหง หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีน ฉายาว่า หมอเฟาซีแห่งจีน ที่แนะนำว่าชาวจีนอาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่ออยู่ร่วมกับโรคโควิด-19

หนุนจีนปราบโควิดเป็นศูนย์

เกา เชียง อดีตรมว.สาธารณสุขจีน หนุนยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์

อย่างไรก็ดี ความเห็นของนายเกา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นถึงอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้านสาธารณสุข ถือว่าสามารถสร้างแรงกระเพื่อมในวงการการเมืองได้มากกว่านางจาง ที่เป็นเพียงผู้อำนวยการแผนกโรงติดเชื้อของโรงพยาบาลหัวซาน และหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการรับมือโรคโควิด-19 ของนครเซี่ยงไฮ้

รายงานระบุว่า ความเห็นข้างต้นของอดีตรมว.สาธารณสุข สะท้อนว่าทางการจีนน่าจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์เดลต้า (พบครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย) ตามยุทธศาสตร์เดิม คือ ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ ซึ่งจีนเคยทำสำเร็จมาแล้วกับชนิดดั้งเดิม

นายเกายังกล่าวโจมตีบรรดานานาชาติทั่วโลกที่หันไปใช้แนวคิด “อยู่ร่วมกับไวรัส” และผ่อนคลายมาตรการชะลอการระบาดก่อนเวลาอันควร ทั้งยังยกตัวอย่างเป็นชาติอย่างอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเผชิญกับผลลัพธ์ร้ายแรงและสร้างผลกระทบใหญ่หลวงให้กับความพยายามกวาดล้างไวรัสของประชาคมโลก

นอกจากนี้ นายเกายังกล่าวโจมตีการแสดงความคิดเห็นของนายจางด้วยว่า เป็นนักวิชาการที่มีความย้อนแย้ง เพราะด้านหนึ่งก็คอยอธิบายว่าโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์เดลต้านั้นร้ายกาจอย่างไร แต่อีกด้านหนึ่งก็กลับบอกให้ทุกคนทำใจอยู่ร่วมกับโรคดังกล่าวแทน

นายเกาเรียกร้องให้ทางการจีนเดินหน้าตามยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ตามเดิมต่อไป โดยกวาดล้างไวรัสชนิดนี้ด้วยการผสมผสานระหว่างการระดมฉีดวัคซีนป้องกัน มาตรการควบคุมการเคลื่อนที่ของมวลชนที่เด็ดขาด โดยเฉพาะตามแนวพรมแดน สะท้อนว่ารัฐบาลจีนอาจยังไม่เปิดพรมแดนต่อต่างชาติอย่างเสรีในเร็ววันนี้

ความขัดแย้งกันระหว่างนักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญของจีนข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของเชื้อกลายพันธุ์ชนิดเดลต้า ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดที่สูงมากในระดับที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการวิทยาศาสตร์

นายแพทย์แลร์รี บริลเลียนต์ นักระบาดวิทยาชาวอเมริกัน หนึ่งในอดีตคณะทำงานกวาดล้างโรคฝีดาษให้หมดไปจากโลกได้สำเร็จ ระบุว่า ไวรัสก่อโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์เดลต้า อาจเป็นไวรัสที่มีความสามารถในการระบาดมากที่สุดเท่าที่มนุษยชาติเคยหน้าเผชิญมา

รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เคยกล่าวไว้ในโอกาสฉลองชัยชนะเหนือโรคโควิด-19 ชนิดดั้งเดิม ว่านโยบายกวาดล้างโควิดแบบเหลือศูนย์ของจีนนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพของระบอบการเมืองของจีน มากกว่าชาติประชาธิปไตยอย่างสหรัฐฯ

ยุทธศาสตร์ของจีนเป็นผลมาจากระบบสาธารณสุขที่บอบบาง และประสิทธิศักย์ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ดีเท่ากับโลกตะวันตก ทำให้ทางการจีนมุ่งเน้นการระดมตรวจและการคัดแยกผู้ติดเชื้อที่ต้องมีความว่องไวและทันต่อสถานการณ์

ทั้งนี้ ข้อมูลจากหน่วยงานการแพทย์ฉุกเฉินจีน (Chinese Society of Critical Care Medicine) ระบุว่า ปัจจุบันจีนมีอัตราส่วนเตียงผู้ป่วยวิกฤต หรือไอซียู อยู่ที่ 3.43 เตียง ต่อประชากร 1 แสนคน ต่างกับสหรัฐฯ ที่มีอัตราส่วนเตียงไอซียูต่อประชากร 1 แสนคน ถึง 34.2 เตียง (ข้อมูลจาก National Centre for Biotechnology Information ของรัฐแมรีแลนด์)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน