ยิงรอบสนามบินคาบูลอีก – วันที่ 19 ส.ค. รอยเตอร์ รายงานสถานการณ์ในอัฟกานิสถานว่า ผู้ประท้วงโบกธงชาติอัฟกานิสถานลงถนนหลายเมืองมากขึ้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 102 ปี แห่งวันประกาศเอกราชจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษในปี 2462 ท่ามกลางกระแสการต่อต้านกลุ่มตาลิบันขยายเป็นวงกว้าง

REUTERS/Pajhwok Afghan News

ล่าสุด นักรบติดอาวุธยิงฝูงชนอีกครั้ง ในเมืองอาซาดาบัด จังหวัดคูนาร์ ทางตะวันออกของประเทศ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากถูกยิงหรือเหยียบกันตาย นายโมฮัมเหม็ด ซาลิม ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ผู้คนนับร้อยออกมาเดินบนถนน ตอนแรกรู้สึกกลัวและไม่ต้องการออกไป แต่เมื่อเห็นเพื่อนบ้านคนหนึ่งเข้าร่วม จึงถือธงชาติที่มีที่บ้านออกไปด้วย

นอกจากนี้ มีการประท้วงในเมืองจาลาลาบัด และเขตแห่งหนึ่งในจังหวัดปักเตีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกทั้งคู่ ส่วนในกรุงคาบูล เมืองหลวง มีคลิปวิดีโอฝูงชนทั้งชายและหญิงโบกธงอัฟกานิสถาน 3 สีดำ-แดง-เขียว และตะโกนว่า “ธงของเรา เอกลักษณ์ของเรา” แต่มีนักรบกลุ่มตาลิบันยิงปืนขึ้นฟ้าใกล้กลุ่มผู้ชุมนุม

WAKIL KOHSAR / AFP

เหตุการณ์ในเมืองอาซาดาบัดเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังนักรบกลุ่มตาลิบันเปิดฉากยิงผู้ชุมนุมโบกธงชาติอัฟกานิสถาน ในเมืองจาลาลาบัด จังหวัดนันการ์ฮาร์ เมื่อวันพุธที่ 18 ส.ค. มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

การชุมนุมทั้งหมดดังกล่าวเป็นการปกป้องธงชาติของอัฟกานิสถาน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นธงสีขาว หลังกลุ่มตาลิบันยึดอำนาจในประเทศ สื่อรายงานว่า ในพื้นที่การชุมนุมบางแห่ง คนฉีกธงสีขาวของกลุ่มตาลิบันด้วย

 

ทั้งนี้ กลุ่มตาลิบันแถลงตั้งแต่ยึดกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า กลุ่มตาลิบันเดินทางสายกลางมากขึ้น ต้องการสันติภาพ จะไม่ล้างแค้นศัตรูเก่า และเคารพสิทธิสตรีภายในกรอบกฎหมายอิสลาม

จากเดิมที่ปกครองอัฟกานิสถานในช่วงปี 2539-2544 นักรบตาลิบันจำกัดสิทธิสตรีอย่างหนัก ประหารชีวิตในที่สาธารณะ และระเบิดพระพุทธรูปโบราณ

…………..

สนามบินโกลาหล

ภาพประกอบข่าว วันที่ 16 ส.ค. REUTERS/Stringer

แม้ว่ากรุงคาบูลจะสงบตั้งแต่กลุ่มตาลิบันยึดเมื่อวันที่ 15 ส.ค. แต่สถานการณ์ที่สนามบินยังโกลาหลเนื่องจากผู้คนพยายามเดินทางออกนอกประเทศ และมีรายงานจากเจ้าหน้าที่องค์การนาโต้และกลุ่มตาลิบันว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งในและนอกสนามบินเพิ่มเป็น 12 ราย

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตาลิบันซึ่งไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ถูกยิงหรือเหยียบกันตาย พร้อมขอให้ผู้คนที่ยังเบียดเสียดที่ทางเข้าออกสนามบินเดินทางกลับบ้าน หากไม่มีสิทธิเดินทางอย่างถูกต้องตามกฎหมาย “เราไม่ต้องการให้ใครบาดเจ็บที่สนามบิน”

ในสื่อสังคมออนไลน์มีคลิปวิดีโอสะเทือนใจที่ผู้คนต่างช่วยกันส่งต่อทารกหญิงตัวน้อยไปถึงมือทหารสหรัฐที่ยืนเฝ้าอยู่เหนือกำแพงสูงของสนามบิน ตอกย้ำถึงความสิ้นหวังของหลายคนที่กำลังเผชิญ

นอกจากนี้ มีรายงานคนยิงปืนขึ้นฟ้าตรงทางเข้าสนามบินหลายจุด จนฝูงชน รวมถึงบรรดาแม่อุ้มทารก วิ่งหนีตายอย่างกระจัดกระจาย แต่ไม่มีความชัดเจนว่า กระสุนมาจากนักรบตาลิบันด้านนอกสนาบิน หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ช่วยภารกิจของกองกำลังสหรัฐภายในสนามบิน

…………..

ABC

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ว่า กลุ่มตาลิบันต้องตัดสินใจว่าต้องการได้รับการยอมรับจากนานาชาติหรือไม่

“ผมคิดว่าพวกเขากำลังเผชิญกับวิกฤตอัตถิภาวนิยมที่ว่า พวกเขาต้องการได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศว่าเป็นรัฐบาลชอบธรรมหรือไม่ ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้น” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว

 

ขณะนี้สหรัฐและมหาอำนาจชาติตะวันตกเร่งอพยพพลเมืองและชาวอัฟกันบางส่วนที่เคยทำงานให้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงชาติตะวันตกระบุว่า ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. จนถึงตอนนี้ คนอพยพออกจากประเทศไปแล้วราว 8,000 คน

ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงที่เจรจารัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เจรจากับกลุ่มตาลิบันเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐตกลงที่จะถอนกองกำลังเพื่อแลกกับหลักประกันของกลุ่มตาลิบันว่า สหรัฐจะไม่ยอมให้อัฟกานิสถานถูกใช้เป็นเครื่องโจมตีจะผู้ก่อการร้าย

 

ขณะที่กลุ่มตาลิบันตกลงไม่โจมตีกองกำลังต่างประเทศขณะอพยพออกนอกอัฟกานิสถาน

ส่วนการอพยพพลเรือนอเมริกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า กองกำลังสหรัฐจะอยู่ในสนามบินในกรุงคาบูลจนกว่าจะเสร็จสิ้น แม้จะเลยเส้นตายวันที่ 31 ส.ค.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ตาลีบันเผชิญหน้าผู้ประท้วงในหลายเมือง พลเรือนถูกยิงดับแล้ว 3 ราย สิทธิสตรียังถูกละเมิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน