โควิด โลกทึ่งจีนสกัดเดลต้าอยู่หมัด-ปลื้มพบการระบาดเป็นศูนย์วันแรก

โควิด – วันที่ 23 ส.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการจีนพบการระบาดของผู้ติดโรคติดเชื้อโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ใหม่เป็นศูนย์แล้วเป็นวันแรก หลังชนิดกลายพันธุ์เดลต้า (พบครั้งแรกในอินเดีย) ระบาดไปทั่วถึง 31 มณฑลตั้งแต่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ หรือเอ็นเอชซี ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 21 คน โดยเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศและอยู่ในการกักตัวทั้งหมด ในจำนวนนี้ 16 คน ไม่แสดงอาการป่วยใดๆ ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศนั้นไม่พบเป็นวันแรก

หากข้อมูลข้างต้นสะท้อนสถานการณ์จริงในประเทศ จะส่งผลให้จีนสามารถสกัดกั้นการลุกลามของเชื้อชนิดเดลต้าได้เป็นชาติแรกในโลก ตามนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ที่ทางการจีนประกาศไว้ว่าจะกวาดล้างเชื้อดังกล่าวให้ราพณาสูรไปจากแผ่นดินจีน

ความเคลื่อนไหวข้างต้นเกิดขึ้นหลังจีนเผชิญกับกลุ่มก้อนการระบาด หรือคลัสเตอร์เชื้อเดลต้าที่เริ่มขึ้นในกลุ่มเจ้าหน้าที่และพนักงานทำความสะอาดของท่าอากาศยานนครนานกิง มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของประเทศก่อนจะลุกลามไปถึง 31 มณฑล นับได้ครึ่งหนึ่งของประเทศ

คลัสเตอร์นี้ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 1,200 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยถูกประชาคมโลกมองว่าเป็นบททดสอบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และความท้าทายต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล

นับตั้งแต่เกิดการระบาดขึ้นบรรดาหน่วยงานท้องถิ่นของจีนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยการใช้มาตรการล็อกดาวน์ประชาชนหลาย 10 ล้านคนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ระดมกำลังตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างว่องไวและทั่วถึงทุกบ้าน รวมถึงห้ามการเดินทางข้ามพื้นที่อย่างจริงจัง

ผลของมาตรการหลายด้านดังกล่าวของจีนนั้นปรากฎผลลัพธ์เชิงประจักษ์ เนื่องจากส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันหลักร้อยจนเหลือหลักเดียวในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

รายงานระบุว่า จีนเป็นชาติที่ดำเนินยุทธศาสตร์โควิดในประเทศเป็นศูนย์เช่นเดียวกันกับสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ชาติเหล่านี้ใช้วิธีการปิดพรมแดนต่อชาวต่างชาติแทบทั้งหมด เน้นการกักตัวเพื่อรอดูอาการ มาตรการล็อกดาวน์ และการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกที่กว้างขวางเพื่อกวาดล้างการระบาดที่อาจเล็ดรอดเข้ามา นำมาสู่ความสำเร็จในการกวาดล้างโรคโควิด-19 ช่วงเกือบปีที่ผ่านมา

ทว่า เชื้อกลายพันธุ์ชนิดเดลต้าที่เกิดการระบาดลุกลามไปทั่วโลกนั้นมีความสามารถในการติดต่อสูงขึ้นอีก ส่งผลให้หลายเมืองใหญ่ทั้งในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต้องหวนกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ท่ามกลางสถิติใหม่ของผู้ติดเชื้อรายวัน และการเดินขบวนประท้วงมาตรการรัฐ

นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ยังเคยระบุทำนองว่า ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ของออสเตรเลียนั้นอาจต้องยุติลงในที่สุด แต่ยืนยันว่าการล็อกดาวน์ยังมีความจำเป็นต้องใช้จนกว่าประชากรจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากกว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป

เช่นเดียวกันกับ ทางการสิงคโปร์ที่เปิดเผยแผนแม่บท “นิว นอร์มัล” ให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ไม่เหมือนกับทางการจีนที่ยังคงเหนียวแน่นกับยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ โดยสถานทีโทรทัศน์จีนอย่างซีซีทีวี เตือนว่า การระบาดในโลกยังไม่ยุติดังนั้นชาวจีนไม่ควรประมาท

นอกจากนี้ จีนยังคงเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชากรด้วย โดยข้อมูลจากเอ็นเอชซี ระบุว่า มีผู้ได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 1.94 พันล้านคน มีอัตราส่วนวัคซีนที่ฉีดต่อประชากรอยู่ที่ 135 เข็มต่อ 100 คน มากเสียยิ่งกว่าอัตราส่วนในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน