หญิงสาวหัวใจสลาย หลังคู่หมั้นโดนรถชน จนเสียชีวิตกระทันหัน ไม่กี่ชั่วโมงก่อนงานแต่งของทั้งคู่ สุดเศร้าต้องสวมชุดเจ้าสาวไปงานศพเจ้าบ่าว เพื่อบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
ไมลส์ ไมลีย์ ฮาร์ตี วัย 20 ปีจากแอสคีตัน ในลิเมอริค ประเทศไอร์แลนด์ เสียชีวิตอย่างน่าเศร้า หลังจากที่รถที่เขาโดยสารอยู่นั้นประสบอุบัติเหตุชนกับเสา เมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งของวันเสาร์ (21 ส.ค.) ที่ผ่านมา แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ เคท คิลลิแกน ว่าที่ภรรยาสาวของเขาเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะแทนที่วันนั้นจะกลายเป็นวันที่เธอมีความสุขในชีวิต กลับเกิดเรื่องราวสุดเลวร้ายขึ้น
จากงานแต่งงานที่แสนสุข กลายเป็นงานศพที่แสนโศก เคทได้เดินทางไปยังสถานที่จัดงานแต่งงาน และได้ทำการปล่อยลูกโป่งออกไป เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา แทนที่จะผูกมัดเขาเอาไว้ “นี่คือสิ่งที่เราทุกคนควรเฉลิมฉลองวันที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา แต่กลับเป็นวันที่แย่ที่สุด” เคทกล่าว
“ฉันจะรักคุณตลอดไป มันจะเป็นฉันและคุณเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” “ฉันรักเธออย่างไม่มีเงื่อนไข ยักษ์ผู้อ่อนโยนของฉัน เธอไม่สมควรได้รับสิ่งนี้ ผู้ชายสุดหล่อของฉัน” เคทกล่าว ก่อนที่จะปล่อยลูกโป่งสีฟ้าที่เขียนว่า “King For A Day” และ “20” ขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือโบสถ์
ในวันนั้นครอบครัวและเพื่อนรวมหลายร้อยคนได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวในบ่ายวันเสาร์ เพื่อระลึกถึงไมลส์ และเมื่อวันอังคาร (24 ส.ค.) ที่ผ่านมา ทางครอบครัวก็ได้จัดพิธีศพของไมลส์ขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโบสถ์เดียวกันที่ใช้จัดงานแต่งงานของทั้งคู่หากไม่เกิดเรื่องร้ายขึ้นเสียก่อน
พิธีศพของไมลส์เกิดขึ้นท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบและเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งจากภาพพิธีศพของไมลส์ที่กำลังดำเนินไปนั้น เราจะเห็นเคทเจ้าสาวหัวใจสลายยืนอยู่ระหว่างพ่อแม่ของเธอ และสวมชุดแต่งงานสีขาว พร้อมกับถือช่อดอกไม้งานแต่งงาน และมีรูปของไมลส์วางอยู่เบื้องหลัง
พ่อของเคทได้พูดว่า “ไมลส์ นี่คือสิ่งเดียวที่เคทต้องการมาทั้งชีวิต ไมลีย์ ฮาร์ตี เธอแต่งตัวและเธอจะเข้าไปหาคุณเป็นครั้งสุดท้าย” จากนั้นเขาก็พูดว่า “ไมลีย์ ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลย” ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงไปจูบปลอบลูกสาวของเขา
หลังจากพิธีศพที่เกิดขึ้นเคทได้เขียนข้อความให้ไมลีย์ ระบุว่า “วันนี้เป็นวันที่ยากที่สุดในชีวิตของฉัน แต่ฉันรู้ว่าคุณอยู่กับฉันทุกย่างก้าว ฉันแค่หวังว่าคุณจะรู้ว่าฉันรู็สึกยังไงกับคุณ”
ด้านบาทหลวงประจำโบสถ์ก็ได้กล่าวกับผู้ไว้ทุกข์ว่ารถยนต์เป็น ‘อาวุธที่ร้ายแรง’ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชน ตระหนักถึงอันตรายของรถยนต์ “ดังนั้น คำวิงวอนที่ผมมั่นใจว่า พวกเราหลายคนที่นี่จะทำก็คือให้ตระหนักถึงอันตรายต่อตัวคุณเองและผู้อื่นเมื่อคุณขับรถ คุณมีความสำคัญเกินกว่าที่เราจะสูญเสียคุณไป” บาทหลวงกล่าว
