เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานรายงานจับกระแสเส้นทางการเมืองของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย หลังจากเพิ่งประกาศตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียในปีหน้า ในการพบปะกลุ่มจิตอาสา วันที่ 6 ธ.ค.
เอเอฟพีระบุช่วงเวลาสำคัญในชีวิตการเมืองของนายปูติน ผู้เกิดวันที่ 7 ตุลาคม 2495 ในครอบครัวชนชั้นแรงงานว่า ผงาดขึ้นตั้งแต่ปี 2541 เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับของรัสเซีย หรือ เคจีบี หลังจากทำงานมาตั้งแต่ปี 2518
ต่อมาเห็นแววชัดเจนว่าได้เป็นทายาทการเมืองของนายบอริส เยลต์ซิน เมื่อขึ้นนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี 2542 รับผิดชอบงานปราบปรามกบฏในเชชเนีย
ต่อมาเมื่อนายเยลต์ซินลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 31 ธ.ค. นายปูตินจึงขึ้นเป็นประธานาธิบดีแทนในปี 2543 และลงรับสมัครเลือกตั้งนั่งตำแหน่งเดียวกันนี้ต่อ
ปี 2547 นายปูตินได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย จนถึงปี 2551 ครบวาระการครองอำนาจสองสมัยตามรัฐธรรมนูญแล้ว จึงผันไปเลือกนายดมิทรี เมดเวเดฟ นักการเมืองผู้ภักดีมาเป็นประธานาธิบดีแทน ส่วนตนเองไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ปี 2555 กลับมาเป็นประธานาธิบดีได้อีกครั้ง หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีวาระ 6 ปี แม้จะมีกระแสประท้วงลุกฮือขึ้น แต่ไม่อาจทำอะไรได้
ปี 2556 ยุติชีวิตสมรสกับนางลุดมิลา ที่ดำเนินมานาน 3 ทศวรรษ มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน
ปี 2557 แสดงแสนยานุภาพทางการเมืองที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อผนวกสาธารณรัฐไครเมีย ที่จู่ๆ ตัดขาดจากยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างฉับพลันทันใด ทำให้เกิดความบาดหมางกับชาติตะวันตกอย่างรุนแรงที่สุดนับจากยุคสงครามเย็น
ปี 2558 ประกาศนำรัสเซียสนับสนุนการทหารให้รัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ในสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปี 2556
วันที่ 6 ธ.ค. 2560 ประกาศขณะเป็นประธานในงานพิธีมอบรางวัล “จิตอาสาแห่งรัสเซีย” พิธีกรในงานกล่าวว่า ว่าจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคมปี 2561 เพื่อสานต่ออำนาจการบริหารอีก 6 ปี ถึงปี 2567
นายปูตินตอบว่า การตัดสินใจดังกล่าวสำหรับทุกคนเป็นการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบอย่างมาก เพราะมีแรงจูงใจที่ให้ตัดสินใจเพียงเพื่อปรารถนาที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในรัสเซียให้ดีขึ้น ทำประเทศให้แข็งแกร่ง มั่นคง และมองไปยังอนาคตมากขึ้น
“ส่วนจะสามารถบรรลุผลเป้าหมายดังกล่าวได้หรือไม่ ขึ้นอยู่อย่างเดียวคือ ประชาชนเชื่อใจและให้การสนับสนุน” นายปูตินกล่าวจนผู้เข้าร่วมงานปรบมือและส่งเสียงเชียร์และดังกระหึ่ม
ต่อมานายปูตินถามผู้เข้าร่วมงานกลับไปว่า “หากผมตัดสินใจ (ลงสมัครเลือกตั้ง) แล้ว คุณและคนอื่นที่พึงพอใจคุณจะให้การสนับสนุนการตัดสินใจเช่นนี้หรือไม่” จนผู้เข้าร่วมงานปรบมือและส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มอีกครั้งหนึ่ง และตอบคำถามนายปูตินอย่างเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่ครับ/ค่ะ”
ด้านนางคเซเนีย ซ็อบชาก พิธีกรรายการโทรทัศน์รัสเซีย ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นกัน แต่ผลสำรวจหลายสำนักชี้ว่า นายปูตินจะชนะอย่างลอยลำ ขณะที่นายอเล็กเซย์ นาวัลนีย์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ถูกห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากถูกตั้งข้อหาฉ้อฉล แต่เจ้าตัวอ้างว่า ข้อหาดังกล่าวมาจากแรงจูงใจทางการเมือง
ทั้งนี้ นายปูตินเป็นที่นิยมชมชอบของชาวรัสเซียจำนวนมาก ที่มองว่าเขาเป็นผู้นำแข็งแกร่ง สามารถฟื้นฟูรัสเซียสถานะของรัสเซียในระดับโลก โดยแทรกแซงทางทหารในสงครามกลางเมืองซีเรีย และการผนวกแหลมไครเมียจากยูเครนมาเป็นของรัสเซีย แต่นายปูตินก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องทางในการทุจริตและผนวกแหลมไครเมียอย่างผิดกฎหมาย จนนำไปสู่การประณามของนานาชาติ