หนุ่มบริติชรับสารภาพ มีเซ็กซ์กับกิ๊กอย่างรุนแรงจนกระทั่งสาวทนไม่ไหวดับคาเตียง ก่อนศาลตัดสินจำคุกเกือบ 5 ปี เพราะมิได้มีเจตนาฆ่า
เดอะการ์เดียนรายงาน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองดาร์ลิงตัน ในประอังกฤษ หลังศาลตัดสินคดีความของนายแซม ไพบัส วัย 32 ปี ซึ่งยอมรับสารภาพว่าใช้แรงกดคอของโซฟี มอสส์ วัย 33 ปี ขณะมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรงจนเธอเสียชีวิตโดยมิได้ตั้งใจ
แซมและโซฟี มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวมาเป็นเวลา 3 ปี โดยลักลอบมีเพศสัมพันธ์ประมาณหกครั้งต่อปี โดยที่ภรรยาและสามีของพวกเขาไม่รู้
ในวันเกิดเหตุ เมื่อแซมดื่มเบียร์ 24 ขวดเสร็จจึงขับรถไปยังแฟลตของโซฟี ขณะที่ภรรยาของเขาเข้านอน จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เขาพบเธอนอนหมดสติอยู่ข้าง ๆ
แทนที่เขาจะปฐมพยาบาล แซมกลับเดินไปที่รถพร้อมคิดว่าจะทำอย่างไร ก่อนจะขับรถไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เขาคิดว่าตนเองบีบคอเธอจนเสียชีวิตขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งโซฟีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในการพิจารณาคดี แซมยอมสารภาพว่ามิได้พยายามจะทำให้โซฟีได้รับการบาดเจ็บหรือตายแต่อย่างใด พร้อมอ้างว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เขาได้รับอนุญาตให้กดคอของเธอได้
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ออกมาแถลงการณ์กฎหมาย เรื่อง “บุคคลไม่สามารถยินยอมให้ผู้ใดทำร้ายร่างกายหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสจนนำไปสู่ความตายของตนเอง”
บีบีซีรายงาน ฟิโอนา แมคเคนซี โฆษกหญิงจาก We Can’t Consent To This ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ยุติการอ้างว่าเป็นการยินยอมของผู้หญิงจากใช้ความรุนแรง กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าการบีบคอผู้หญิงจนกระทั่งเสียชีวิต กฎหมายยังมองว่าเป็นอุบัติเหตุอันแสนโชคร้ายมากกว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรง”
“การตัดสินลงโทษโดยการจำคุกเพียง 4 ปี 8 เดือนสำหรับการกระทำที่อุกอาจและฆาตกรรมผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นข้อความที่น่าสยดสยองอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่ากฎหมายที่รัฐบาลแถลงเรื่องไม่อนุญาตให้ผู้กระทำผิดใช้คำกล่าวอ้างเรื่องการมีเพศสัมพันธ์รุนแรง เพื่อหลบเลี่ยงความยุติธรรมนั้นไม่ได้ผล”
ทางด้านคริสโตเฟอร์ แอตกินสัน จากสำนักงานอัยการสูงสุด (CPS) อธิบายว่าเหตุใดแซมจึงไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดฐานฆ่าโดยเจตนา
“ในกรณีที่การเสียชีวิตเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง แต่ไม่สามารถพิสูจน์เจตนาดังกล่าวได้ การตั้งข้อหาที่เหมาะสมคือกระทำผิดฐานฆ่าโดยไม่เจตนา ”
ขอบคุณที่มาจาก BBC The Guardian
