สิ้นทาร์ซานตัวจริง – เดลีเมล์ รายงานว่า โฮ วัน แลง ชาวเวียดนาม ผู้ได้ฉายา ทาร์ซานในชีวิตจริง จากการใช้ชีวิตในป่าเกิน 40 ปี เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ขณะอายุ 52 ปี หลังออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้ 8 ปี
นายโฮ วัน แลง ติดตามพ่อชื่อ โฮ วัน ธานห์ ที่พาครอบครัวหนีสงครามเวียดนามจากการทิ้งระเบิดของกองทัพสหรัฐ ซึ่งทำให้แม่และพี่ชายอีกสองคนของนางแลงเสียชีวิต เข้าไปอยู่ในป่า เขตตราเบา จังหวัดกว๋างหงาย ตอนกลางใต้ของประเทศ ตั้งแต่เมื่อปี 2515 โดยไม่รู้จักวิถีชีวิตของโลกภายนอกนานถึง 41 ปี
อ่านข่าว : รู้จัก ‘ทาร์ซาน‘ ในชีวิตจริง อยู่ในป่า 40ปี ไม่รู้จักเพศหญิง
กระทั่งเมื่อปี 2556 โฮ วัน แลงออกมาที่หมู่บ้านโดยยังเชื่อว่า สงครามยังดำเนินอยู่ แต่จำเป็นต้องออกมา เพราะพ่อป่วยหนักต้องหาหมอ ทำให้ตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วเวียดนามและเป็นข่าวไปทั่วโลกถึงการเจอทาร์ซานในชีวิตจริง ส่วนนายธานห์ บิดา เสียชีวิตต่อมาในปี 2560 โดยไม่ทราบสาเหตุ
ก่อนหน้านั้นเคยมีชาวบ้านเคยเห็นสองพ่อลูกออกมาเก็บฟืนอยู่ชายป่า จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้เวลาแกะรอยค้นหาอยู่ 5 ชั่วโมงจนเข้าไปพบ และทราบว่า พี่ชายของนายโฮ วัน แลง ชื่อ โฮ วัน ตรี ใช้ชีวิตอยู่ภายนอก เคยชักชวนให้พ่อและน้องออกมาอยู่ในหมู่บ้าน ช่วงที่พ่อเริ่มสุขภาพไม่ดี
ตั้งแต่นั้นมา นายโฮ วัน แลง ใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งเพื่อนและผู้สังเกตการณ์เชื่อว่า ความเครียด และการกินดื่มที่ไม่เป็นผลดีกับสุขภาพ
นายอัลบาโร เซเรโซ เพื่อนคนหนึ่งของนายแลง กล่าวว่า การที่นายแลงใช้วิถีชีวิตใหม่ เริ่มกินอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง รวมถึงดื่มแอลกอฮอล์ มีผลเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเพื่อน
“ผมไม่ชอบเลยที่เห็นเขาอยู่ในโลกศิวิไลซ์ ผมห่วงเขาและร่างกายเขาเสมอว่าจะรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนั้น ผมเศร้ามากที่เสียเขาไป แต่ก็มองว่าเขาได้ไปดีแล้ว เพราะป่วยทรมานมาหลายเดือน เขาเป็นมนุษย์ที่น่ารัก การลืมเขามันเป็นไปไม่ได้เลย ผมจะคิดถึงเขาทุกวัน” นายเซเรโซกล่าว
ช่วงที่นายแลงอยู่ในป่ากับพ่อ สองพ่อลูกหาอาหารกินเป็นผลไม้ ขุดมันจากในป่า และข้าวโพดที่ปลูกไว้ ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเปลือกไม้ และอาศัยในกระท่อมที่สร้างให้อยู่สูงพื้นดิน 5 เมตร
ตอนที่ผู้คนจากภายนอกเข้าไปพบ นายตรัน พูดภาษาชนกลุ่มน้อยได้นิดหน่อย ส่วนนายแลงพูดได้ไม่กี่คำ ทั้งสองได้รับการตรวจร่างกายก่อนจะมาใช้ชีวิตภายนอก ในปี 2556
เมื่อปี 2559 นายแลงเคยกลับเข้าไปยังบ้านในป่า พร้อมนายเซเรโซ ผู้ทำงานให้องค์กร Docastaway องค์กรที่ช่วยเหลือคนที่ต้องการหนีจากความเจริญไปใช้ชีวิตลำพังบนเกาะแห่งหนึ่ง โดยตอนนั้นเซเรโซพานายแลงไปอยู่กระท่อมเดิมกลางป่าหนึ่งสัปดาห์
“เขาตื่นเต้นมากที่พาผมไปยังบ้านที่เขาเคยอยู่ เราสนิทกันเร็วมาก เพราะแลงไม่คิดว่ามีใครจะสนใจทักษะที่เขาเอาตัวรอดในป่า เขามีความสุขมากที่ได้แสดงให้ผมดู” นายเซเรโซเล่าความหลัง
‘เขาเป็นคนที่น่าทึ่งมากและน่ารักมาก ตอนเราอยู่ในป่าด้วยกัน สิ่งที่ผมใช้เวลานานเป็นหลายชั่วโมงกว่าจะสำเร็จนั้น แลงทำได้ภายในไม่กี่วินาที เขาเหมือนเด็กที่มีทักษะเป็นยอดมนุษย์”
ทริปครั้งนั้นทำให้นายเซเรโซเก็บภาพบันทึกที่นายแลงสะเทือนใจที่ต้องจากป่าที่เคยอยู่ และมองว่า วิถีชีวิตใหม่กับวิถีชีวิตเดิมของนายแลงแตกต่างมากเกินไป และเป็นผลเสียกับสุขภาพของนายแลง
………..