เมื่อชาวมะกันจับจระเข้ยักษ์หนัก 350 กิโลกรัมมาผ่าท้อง ทำให้เกิดการค้นพบวัตถุโบราณ 6,000 ปีอย่างไม่คาดฝันจนกลายเป็นที่ประหลาดใจของคนทั่วโลก

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองยาซู รัฐมิสซิสซิปปี ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยชายกลุ่มหนึ่งจับจระเข้ตีนเป็ดหรือแอลลิเกเตอร์ตัวใหญ่ 13 ฟุตหรือ 4 เมตรที่หนักถึง 750 ปอนด์ (350 กิโลกรัม) ได้ในบริเวณอิเกล เลค จากนั้นจึงตัดสินใจผ่าท้องจระเข้ที่จับได้ เพื่อดูว่ามันกินอะไรเข้าไปบ้าง

ก่อนจะพบว่าในท้องของมัน มีกระดูกปลา ขนนก ขนสัตว์ และวัตถุแปลกปลอม 2 ชิ้นที่มีลักษณะคล้ายกับหัวลูกศรหักและวัตถุรูปทรงหยดน้ำ ต่อมาพวกเขาพบว่าสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวคือวัตถุโบราณที่ไม่ได้ค้นพบมานานเป็นเวลา 6,000 ปีแล้ว จึงสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนกันถ้วนหน้า

ภาพจาก Clarionledger / Facebook

เชน สมิธโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านเฟซบุ๊ก Red Antler Processing ว่า “พวกเราผ่าท้องจระเข้ขนาดใหญ่ เพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ในท้องของมัน ทุกคนยืนอยู่รอบ ๆ เหมือนผมกำลังเปิดของขวัญคริสต์มาสจนเจอเรื่องราวที่สร้างความช็อกแห่งปี!

เชนให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่โพสต์บนเฟซบุ๊ก เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อ แต่ก็เปลี่ยนใจและตระหนักว่าสิ่งที่ค้นพบนั้น มันเจ๋งเกินกว่าที่จะไม่โพสต์ เราพูดเล่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าผมอาจเป็นคนเดียวในโลกที่ดึงหัวลูกศรออกจากท้องจระเข้

ภาพจาก Clarionledger / Facebook

เจมส์ สตาร์เนส ผู้อำนวยการด้านธรณีวิทยา ได้ตรวจสอบวัตถุเหล่านั้น เขาคาดว่ามันถูกสร้างขึ้นประมาณ 5,000 – 6000 ปีก่อน

พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าวัตถุนั้นไม่ใช่หัวลูกศรอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่เป็นส่วนหัวของอาวุธยุคแรก ๆ ที่คล้ายหอก ส่วนลูกตุ้ม มีอายุย้อนไปถึงปลายยุคโบราณหรือประมาณ 1700 ปีก่อน มันทำมาจากเฮมาไทต์ ซึ่งเป็นเหล็กออกไซด์และน่าจะใช้โดยชนพื้นเมืองอเมริกัน

ภาพจาก Clarionledger / Facebook

หากคุณสงสัยว่าวัตถุโบราณเหล่านี้เข้าไปอยู่ในท้องของจระเข้ได้อย่างไร ริคกี้ ฟลินท์ ผู้ประสานงานโครงการสัตว์ป่า ประมง และสวนจระเข้แห่งรัฐมิสซิสซิปปี อธิบายว่าวัตถุที่แข็งมากเช่น กรวดหรือหิน จะเป็นตัวช่วยชั้นดีสำหรับการย่อยอาหารในสัตว์เลื้อยคลาน

ขอบคุณที่มาจาก Mirror Clarionledger

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน