เด็กน้อยพม่า ต้องถูกกัก-ระหกระเหินเข้าป่า เพราะพ่อแม่ต้านรัฐประหาร

เด็กน้อยพม่า – ซีเอ็นเอ็น รายงานเรื่องราวชะตากรรมของเด็กน้อยชาวพม่าที่ต้องเผชิญกับการถูกกักขัง หลบหนีเข้าป่า ทั้งที่อายุเพียง 5 ขวบ เพียงเพราะพ่อแม่เด็กมีอุดมการณ์ทางการเมืองต่อต้านการรัฐประหารและการปกครองโดยทหาร

เด็กหญิงซู เท็ด ไวง์ อายุ 5 ขวบ ตื่นขึ้นมาร้องไห้หาแม่และพี่สาวเพราะหนูน้อยต้องอยู่กับโซ เท ผู้เป็นพ่อในป่าที่มียุงชุกชุม

โซ เท เป็นหนึ่งในแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยทำให้เดือดร้อนมาถึงครอบครัว ภรรยาและลูกสาวคนโตถูกตำรวจจับไปขังคุก ส่วนลูกสาวคนเล็กถูกบังคับให้ทำท่ากึ่งนั่งกึ่งยืนระหว่างที่อยู่ในคุก 18 วันซึ่งกระทบกระเทือนจิตใจเด็กอย่างยิ่ง

โซ เท และลูกสาว / CNN

ขณะที่คณะกรรมการต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติระบุว่าเป็นการทรมานรูปแบบหนึ่ง

โซ เทและลูกสาวไม่ได้หนีแต่เพียงลำพังเพราะมีผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารอีกมากมายที่มีชะตากรรมเดียวกัน

ตั้งแต่ทหารควบคุมการบริหารประเทศ กองทัพไล่สังหารคนที่เป็น “ศัตรู” ทั้งยิงผู้ประท้วงบนถนน จับกุมแพทย์ นักเคลื่อนไหว นักข่าวและศิลปินหลายพันคน

บางครั้ง ถ้าไม่เจอคนที่เป็นศัตรู ก็จะตามล่าคนในครอบครัวของศัตรูแทนเพื่อสร้างความหวาดกลัว

ด้านทอม แอนดริวส์ ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมากล่าวว่าการที่ทหารไล่ล่าผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ประชาคมระหว่างประเทศควรใส่ใจกับความจริงอันโหดร้ายที่ชาวเมียนมากำลังเผชิญ

บ้านเรือนของชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่เผา เพียงเพราะมีกลุ่มต่อต้านรัฐประหารอยู่ในหมู่บ้าน (Photo by Handout / ANONYMOUS / AFP)

สลายการชุมนุม

หลังจากทหารกุมอำนาจ โซ เท ร่วมประท้วงตามท้องถนนทำให้ตกเป็นเป้าหมายถูกทหารไล่ล่าเช่นเดียวกับผู้ประท้วงอีกหลายพันคน

แม้ว่าโซ เท เลิกประท้วงหลายเดือนแล้วเพราะกลัวถูกยิง แต่ทหารยังตามไล่ล่าและบุกจู่โจมที่บ้านในเมืองโม่โกะ เขตมัณฑะเลย์ 4 ครั้ง ทุกครั้ง เขาหนีไปซ่อนตัวที่บ้านลูกชาย จึงรอดพ้นจากการจับกุม

แต่การจู่โจมบ้านเมื่อเดือน มิ.ย. แม้หนีได้เช่นเคย แต่ครั้งนี้ ทหารจับตัวภรรยาและลูกสาวทั้ง 2 คนไป ทั้งที่ลูกสาวคนโตเป็นวัยรุ่นและคนเล็กอายุยังไม่ถึง 5 ขวบ

Police officers holding shields and guns march towards a gate of the Mandalay Technological University in Mandalay, Myanmar March 7, 2021 in this still image obtained by Reuters from a CCTV footage.

เด็กหญิงซู เท็ด ไวง์ อายุครบ 5 ขวบในที่คุมขังและได้ปล่อยตัว หลังจากถูกจับอยู่นาน 18 วัน ส่วนแม่และพี่สาวยังอยู่ในคุกเพราะต้องโทษจำคุก 3 ปี

ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่าทั้งคู่ถูกตั้งข้อหายุยงซึ่งเป็นการลงโทษทั่วไปกับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย

แอนดริวส์กล่าวว่าเคยได้ยินว่าเด็กๆ ถูกลงโทษหนักเพราะพ่อแม่มีทัศนคติทางการเมืองไม่สอดคล้องกับรัฐบาลชุดใหม่และได้รับรายงานว่าเด็กๆ ถูกเฆี่ยนตีและนาบท่อนเหล็กร้อนๆ ที่ขา ตนเห็นกับตาว่าเด็กถูกขังหลายวัน ตนโกรธจนพูดไม่ออกกับพฤติกรรมที่เห็น

เด็กหญิงซู เท็ด ไวง์

ตัวประกันผู้บริสุทธิ์

ไคง์ ซิน ตอว์ ต่อสู้กับกองทัพในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ครอบครัวเผชิญความโหดร้ายเช่นเดียวกับโซ เท

อินฟลูเอ็นเซอร์ หรือ ผู้ทรงอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ในเมียนมา อายุ 21 ปีระดมเงินช่วยเหลือการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืน หรือ ซีดีเอ็ม ซึ่งมีคนหลายพันคนต้องออกจากงานเพราะต่อต้านการปฏวัติและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ

ไคง์ ซิน ตอว์ ระดมเงินบริจาคด้วยการโพสต์ฝ่ายเฟซบุ๊กของเธอซึ่งมีผู้ติดตามประมาณ 700,000 ราย แต่ไม่นานนัก เธอก็ถูกทหารไล่ล่า

หลังจากปฏิวัติเดือน ก.พ. ไคง์ ซิน ตอว์ ออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัยและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนๆ ในเดือน เม.ย. แจ้งว่ารถบรรทุกของทหารหลายคันมาจอดที่บ้านและจับพ่อกับแม่ไป ทั้งที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ส่วนพ่อไม่รู้จักเฟซบุ๊กด้วยซ้ำ

สาวนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยกล่าวว่า “ได้ยินว่าพ่อถูกทรมานและไม่ได้ขอยารักษา บางครั้ง สมองฉันว่างเปล่าและรู้สึกเหมือนเสียสติ ส่วนพ่อกับแม่ถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่น”

ไคง์ ซิน ตอว์ เผยพ่อแม่ถูกจับไปตั้งแต่เดือนเมษายน ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

จับตัวประกัน

สมาคมช่วยเหลือเหยื่อนักโทษการเมืองในเมียนมา หรือ เอเอพีพีระบุว่าประชาชนอย่างน้อย 182 คน รวมทั้งเด็กๆ ถูกจับไปเป็นตัวแทนของสมาชิกในครอบครัวที่เคลื่อนไหวทางการเมืองนับตั้งแต่ปฏิวัติ จนถึงขณะนี้ ยังมีผู้ถูกคุมขัง 141 ที่ยังไม่ได้ออกจากคุก

เอเอพีพีกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรจากการจับตัวประกันและเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายสากล พร้อมเตือนว่าจะมีตัวประกันลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีก

เด็กที่ถูกจับไม่ได้ส่งตัวไปเรือนจำ เช่น เรือนจำอินเส่งซึ่งเป็นที่กักขังผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ถูกส่งไปศูนย์สอบสวน สถานที่คุมตัวของตำรวจ ค่ายทหารหรือสำนักงานฝ่ายบริหารของรัฐบาล โดยเด็กๆ อยู่รวมกับครอบครัวและไม่ได้อยู่กับนักเคลื่อนไหวอื่นๆ ทำให้เข้าใจได้ว่านี่คือการจับตัวประกัน

เด็กน้อยซู เท็ด ไวง์ ชูสามนิ้ว CNN

เอเอพีพีเห็นว่าการจับตัวประกันเป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลทหารในการสร้าง “ความกังวล” ต่อประชาชนในวงกว้างและจะยิ่งแย่ลงไปอีก เมื่อรัฐบาลทหารสูญเสียแนวหน้ามากขึ้นจากการโจมตีในเมืองต่าง เช่น ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้น

อนาคตของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

การจับตัวคนในครอบครัวไปขังมีจุดประสงค์เพื่อกดดันฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล แต่วิธีนี้ไม่ได้ผล

เด็กหญิงซู เท็ด ไวง์ ต้องอยู่กับพ่อในเต็นท์กลางป่า เผชิญฤดูมรสุมและฝูงยุงซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นโรค พร้อมทั้งเก็บสัมภาระในเป้เผื่อไว้หากต้องหนีอีกครั้งเพราะโซ เท เชื่อว่าถูกทหารไล่ล่าไม่เลิก

หนุน้อยไร้เดียงสา / CNN

โซ เท ได้รับข่าวจากเพื่อนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ส่งข้อมูลจากเรือนจำและบางคนได้รับการปล่อยตัวว่าลูกสาวและภรรยาของเขาต้องแยกจากกันตั้งแต่ถูกพิพากษา รวมทั้ง มีข่าวว่าลูกสาวติดโควิด-19 แต่หายดีแล้ว

หัวหน้าครอบครัวและนักสู้เพื่อประชาธิปไตยกล่าวว่าจะไม่ละทิ้งอุดมการณ์ อีกทั้ง จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกวิถีทาง แม้สิ้นหวังก็ตาม เขาคิดอยู่สิ่งเดียวว่าจะต้องถอนรากถอนโคนเผด็จการให้สิ้นซากโดยซ่อนความขมชื่นและความเกลียดชังเอาไว้

ส่วนไคง์ ซิน ตอว์ กล่าวว่าตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยแต่ยังคงย้ายที่อยู่เรื่อยๆ เพราะกลัวทหารติดตาม ตนเสียใจ ท้อแท้และว้าวุ่นที่ช่วยอะไรพ่อแม่ที่อยู่ในคุกไม่ได้เลย

………………

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รัฐประหารเมียนมา : ผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหารหญิงผู้กระโดดตึกเสียชีวิตเพื่อหนีการจับกุมของตำรวจ