กีวี่จ่อยกธงขาวซีโร่โควิด ชี้เดลต้ากดไม่ลง-มุ่งนิวนอร์มัลอยู่ร่วมไวรัส

กีวี่จ่อยกธงขาวซีโร่โควิด – วันที่ 5 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการนิวซีแลนด์เตรียมปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ หรือซีโร่ โควิด เป็นอยู่ร่วมกันกับเชื้อไวรัส หลังยอมรับว่าเชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้านั้นสกัดกั้นได้ยาก

นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ไวรัสก่อโรคโควิดชนิดเดลต้านั้นเปรียบได้เหมือนกับพันธนาการที่สลัดให้หลุดได้ยากยิ่ง พร้อมยอมรับว่ามาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุดนั้นยังไม่สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลงได้อย่างเพียงพอ

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเราสามารถควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ แต่กับเชื้อชนิดเดลต้านั้นการกดให้ผู้ติดเชื้อกลับไปเป็นศูนย์นั้นยากเย็นอย่างมาก” อาร์เดิร์น กล่าว

รายงานระบุว่า นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการระบาดต่ำที่สุดในโลก และเคยกวาดล้างโรคโควิด-19 จนมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์สำเร็จมาแล้ว เรียกเสียงชื่นชมจากประชาคมโลก ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 4,409 คน เสียชีวิต 27 ราย

ทว่า นิวซีแลนด์ เผชิญกับการระบาดของเชื้อชนิดเดลต้านำไปสู่การล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นระยะเวลาสั้นๆ และแม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะกลับสู่สภาวะปกติ แต่เมืองโอ๊กแลนด์ ซึ่งเป็นจุดระบาดแรกของคลัสเตอร์ล่าสุด ยังคงมีผู้ติดเชื้อทุกวันแม้อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุดก็ตาม โดยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อใหม่ 24 คน แม้ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองโอ๊กแลนด์ แต่เริ่มมีสัญญาณลุกลาม

นางอาร์เดิร์น ระบุว่า การปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์มาเป็นการอยู่ร่วมกับไวรัสนั้นเป็นแผนที่ทางรัฐบาลวางไว้อยู่แล้ว แต่เชื้อชนิดเดลต้าส่งผลให้รัฐบาลต้องเร่งรัดแผนให้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้นำนิวซีแลนด์ ยืนยันว่า การปรับเปลี่ยนยังไม่ใช่ตอนนี้

“เราจำเป็นต้องมีสัดส่วนผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าที่เป็นอยู่ ทุกช่วงกลุ่มอายุ รวมถึงในพื้นที่นอกตัวเมืองด้วย” อาร์เดิร์น ระบุ

ด้านข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ พบว่า มีประชาชนที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวครบโดสแล้วอย่างน้อยร้อยละ 49 และได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วถึงร้อยละ 79

นายกฯหญิงของนิวซีแลนด์ กล่าวด้วยว่า ประชาชนทั่วไปจะต้องแสดงใบรับรองการได้รับวัคซีนหากต้องการเข้าร่วมงานมหกรรมทางสังคมต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ต และงานเทศกาล โดยจะเริ่มใช้มาตรการนี้ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.

“ใครที่จองตั๋ว หรือมีนัดไปเที่ยวงานเหล่านี้ นี่คือการเตือนล่วงหน้า กรุณาไปฉีดวัคซีนของท่านมาให้เรียบร้อยนะคะ” อาร์เดิร์น กล่าว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการนิวซีแลนด์ส่งผลให้กลายเป็นอีกชาติที่เปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์อยู่ร่วมกับไวรัสต่อจากบรรดาชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เช่น ออสเตรเลียที่ประกาศจะผ่อนปรนมาตรการชะลอการระบาดหากประชาชนได้รับวัคซีนครบโดสมากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป

ด้านผู้สื่อข่าวถามนางอาร์เดิร์นถึงมาตรการที่ผ่านมาว่าสูญเปล่าหรือไม่ แต่นางอาร์เดิร์นยืนยันว่า ไม่สูญเปล่า เพราะมาตรการ 18 เดือนที่ผ่านมามีความจำเป็น เนื่องจากนิวซีแลนด์ยังไม่มีวัคซีน แต่ขณะนี้มีวัคซีนแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน