จีนกระอักอากาศสุดขั้ว – วันที่ 12 ต.ค. เอพี รายงานสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่ภาคเหนือของจีน โดยเฉพาะที่มณฑลชานซี พื้นที่ที่ไม่มีทางออกทะเล ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 29 ราย ในจำนวนนี้เป็นเหตุรถบัสร่วงลงในแม้น้ำไหลเชี่ยว ที่เมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ที่อยู่ใกล้กัน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 14 ราย ทางตอนเหนือของจีน และช่วยชีวิตได้ 37 คน คนขับถูกตำรวจควบคุมตัวหลังไม่สนคำเตือน ว่าอย่าพยายามขับรถข้ามสะพานที่เกือบถูกน้ำจมมิด
สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือที่ปกติเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่กลับเจอฝนหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ ปริมาณเฉลี่ยรายเดือนถึง 3 เท่า ในช่วงเพียง 5 วันที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพจากบ้านเรือน 120,000 คน และประชาชนได้รับผลกระทบราว 1.76 ล้าน เศรษฐกิจทางตรงเสียหายแล้วมูลค่ากว่า 5,000 ล้านหยวน หรือราว 25,000 ล้านบาท
อีกทั้งน้ำท่วมซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิงทั่วประเทศ เนื่องจากมณฑลชานซีเป็นแหล่งผลิตถ่านหินอันดับต้นของจีน น้ำท่วมทำให้ต้องปิดเหมืองถ่านหินอย่างน้อย 60 แห่ง มีเพียง 4 แห่งกลับมาเปิดตามปกติ ส่วนอาคารบ้านเรือนเสียหาย 19,000 หลัง และอีก 18,000 หลังเสียหายหนัก
ซินหัวรายงานว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของจีน จัดสรรงบประมาณจากกองทุนบรรเทาภัยพิบัติส่วนกลาง จำนวน 80 ล้านหยวน หรือราว 416 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนงานบรรเทาสาธารณภัยในมณฑลชานซีและมณฑลส่านซีแล้ว
ด้านทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันตั้งกระสอบทรายเสริมความแข็งแรงของกำแพงกั้นน้ำ บริเวณริมแม่น้ำเฝินเหอ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาหลักของแม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำเหลือง ในอำภอจี้ซาน มณฑลซานซี หลังจากกำแพงกั้นน้ำดังกล่าวเกิดรอยร้าวความยาวมากกว่า 10 เมตร
สภาพอากาศสุดขั้วทำให้จีนประสบภัยน้ำท่วมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมถึงมณฑลหูเป่ยและมณฑลเสฉวน หลังจากเมื่อกลางปีนี้ น้ำท่วมในมณฑลเหอหนาน ตอนกลาง ทำให้ประชาชนเสียชีวิตกว่า 300 ราย
อ่านข่าว : ทำไมจีนถึงน้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ ถึงขั้นคนจมดับในรถไฟใต้ดิน
ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 300 เหยื่อเหอหนานจมบาดาล
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่าสภาพอากาศสุดขั้ว อาทิ น้ำท่วม ภัยแล้งกำลังเกิดขึ้นเป็นปกติเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อน
วันเดียวกันที่ฟิลิปปินส์ เอพีรายงานฤทธิ์พายุคมปาซุจากทะเลจีนใต้ ผ่านเกาะไห่หนาน ตามด้วยประเทศเวียดนาม แล้วจึงเคลื่อนเข้าพื้นที่ภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดฝนตกหนักและดินโคลนถล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย
ส่วนใหญ่ถูกโคลนถล่มทับบ้าน มีเจ้าหน้าที่รปภ.นายหนึ่งถูกคลื่นน้ำซัดจมเสียชีวิตขณะไปตรวจท่าเรือ นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 7 คน ชาวบ้านกว่า 6,500 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม