กระแสซีรีส์ Squid Game ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า ขนม หรือหน้ากากก็ล้วนขายหมดเหลี้ยง ขณะเดียวกันยังมีการจัดการแข่งขันให้คนเล่นจริงในประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย
โคเรียไทม์รายงาน โรงแรมเซนต์จอห์นที่ตั้งอยู่ในเขตคังนึง จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ ได้ประกาศจัดกิจกรรมการแข่งขัน Saint Game ที่มาจากซีรีส์ยอดฮิต Squid Game ผ่านอินสตาแกรมในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจะได้รับรางวัล 5 ล้านวอนหรือ 140,000 บาท
โดยเปิดรับผู้เข้าร่วมทุกวัยและไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่มาเข้าพักในโรงแรมเท่านั้น ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องจ่ายค่าสมัครและทำการลงทะเบียน เพื่อที่จะได้รับนามบัตรลึกลับที่ระบุหมายเลขโทรศัพท์เช่นเดียวกับที่ผู้เล่นของเกมในซีรีส์
ผู้เข้าร่วมจะเล่นเกมทั้งสิ้น 4 เกม ได้แก่ ดอกมูกุงวาบานแล้ว หรือคนไทยรู้จักกันในเกมเออีไอโอยูหยุด, ชักเย่อ, ตักจิจิกิ หรือเกมพลิกกระดาษ และ ดัลโกนา ที่แงะขนมน้ำตาลแสนฮิต
ภาพจาก Netflix / Squid Game
ตามโพสต์ในอินสตาแกรมของโรงแรม ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหรือไม่ปรากฏตัวในวันที่มีกิจกรรมจะถูกกำจัดจากเกม นอกจากนี้ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ทำหน้าที่เป็นฟรอนต์แมนและตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยในตอนกลางคืน เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในซีรีส์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเมืองคังนึงได้ออกคำสั่งไม่ให้โรงแรมจัดงานดังกล่าว เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนมาตรการความปลอดภัยโรคไวรัสโควิด 19 ที่ควรเว้นระยะห่าง โดยหากมีการพบปะส่วนตัว อนุญาตเพียง 8 คนเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วก็ตาม
ซึ่งก่อนที่เมืองคังนึงจะประกาศงดกิจกรรม งานแข่งขันถูกจองเต็มภายใน 2 วันและมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,100 คน พนักงานโรงแรมให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวท้องถิ่นว่าค่าลงทะเบียน 10,000 วอน ( 281 บาท) สำหรับผู้ที่จองล่วงหน้า และ 12,000 วอน(338 บาท)สำหรับการออกตั๋วหน้างาน
ทั้งพนักงานโรงแรมยังกล่าวว่า ทางโรงแรมกำลังหารือกันว่าจะยกเลิกงานหรือเปลี่ยนรูปแบบภายในขอบเขตของระเบียบการเว้นระยะห่างทางสังคม
ภาพจาก Netflix / Squid Game
ล่าสุดวันที่ 15 ตุลาคม โรงแรมเซนต์จอห์นประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการผ่านทางอินสตาแกรม พร้อมขอบคุณผู้เข้าร่วมที่ให้ความสนใจกับกิจกรรมครั้งนี้
โดยทางโรงแรมจะทำการคืนเงินให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเร็วที่สุด นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังแอบกระซิบอีกว่า คาดว่าในเดือนพฤศจิกายนจะจัดกิจกรรมอีกครั้ง
View this post on Instagram
ขอบคุณที่มาจาก Koreatimes Koreaherald Nypost
