จีนสั่งขัง 9 วัน – วันที่ 3 พ.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ชายในจีนถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 9 วัน หลังส่งภาพล้อเลียน (มีม) ไปกลุ่มแชตที่ถือว่าดูหมิ่นตำรวจ ในเหตุการณ์ที่แพร่สะพัดในสื่อสังคมออนไลน์จีน
ทางการและสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชายคนดังกล่าวมีการระบุเพียงนามสกุล “หลี่” ถูกกล่าวหาว่า ส่งมีมทางวีแชต แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ในกลุ่มแลกเปลี่ยนที่คอยบ่นเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ท้องถิ่น เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ตำรวจในเมืองชิงถงเฉีย เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โพสต์ภาพบันทึกหน้าจอที่มีการแลกเปลี่ยนทางข้อความของนายหลี่บนสื่สังคมออนไลน์ แต่ภายหลังลงโพสต์ดังกล่าวออกไป
เดอะ เปเปอร์ สื่อทางการจีน เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุการณ์ดังกล่าวที่สร้างความตื่นตระหนกในจีน ด้วยการติดแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผู้เข้าชมถึง 170 ล้านครั้ง. หลายคนประท้วงการลงโทษนายหลี่ โดยโต้แย้งว่า การใช้มุขตลกทางอินเทอร์เน็ตยากที่จะเป็นเหตุให้ตำรวจควบคุมตัว
เดอะ เปเปอร์ รายงานว่า นายหลี่ส่งมีมเป็นสุนัขสวมหมวกตำรวจ ถือบัตรตำรวจ และชี้ไปที่กล้องถ่ายภาพ. มีมดังกล่าวมีการใช้ทั่วไปเป็นวงกว้างก่อนหน้านี้ ด้วยรูปแบบแตกต่างกันบางครั้ง รวมถึงแมวหรือตัวการ์ตูนสวมหมวกตำรวจ
เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 30 ต.ค. ตำรวจท้องถิ่นได้รับเบาะแสจากพลเมือง ซึ่งกล่าวหาว่า นายหลี่ส่งภาพที่ดูหมิ่นภาพลักษณ์ตำรวจ. ตำรวจเปิดการสอบสวนกลุ่มแชตดังกล่าว ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 330 คน. หลังพบว่านายหลี่ “ไม่พอใจกับมาตรการป้องกันชุมชน” ตำรวจจึงเรียกนายหลี่มาสถานีตำรวจ ซึ่งนายหลี่ถูกสอบปากคำและสารภาพความผิดที่ดูหมิ่นตำรวจ
ตำรวจกล่าวว่า การกระทำของนายหลี่ถือเป็นความผิดใน “การทะเลาะวิวาทและก่อปัญหา” และให้นายหลี่จำคุก 9 วัน เป็นการลงโทษ
เดอะ เปเปอร์ ยกย่องความพยายามของทางการท้องถิ่นในการสกัดกั้นไวรัส. ตำรวจเป็นแนวหน้าของการป้องกันโรคระบาดและควบคุมเพื่อสร้างเกราะป้องกันความปลอดภัยแก่ชีวิตและสุขภาพของประชาชน
“อย่างไรก็ตาม มีบางคนไม่พอใจกับมาตรการป้องกันโรคระบาด และดูหมิ่นตำรวจอย่างโจ่งแจ้งด้วยซ้ำ. สำหรับการกระทำผิดกฎหมายเช่นนี้ กรมตำรวจ…ยืนกรานมาตลอดต่อนโยบาย “ไม่อดกลั้น” และลงโทษอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายเพื่อปกป้องอำนาจการบังคับใช้กฎหมายและศักดิ์ศรีทางกฎหมายของตำรวจ” บทความเดอะเปเปอร์ระบุ
จีนมีมาตรการโควิด-19 เข้มงวดที่สุดในโลก รวมถึงข้อกำจัดการเดินทาง ล็อกดาวน์ และการตรวจประชาชนจำนวนมาก. สิ่งนี้สวนทางกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่งกำลังเรียนรู้ที่จะอยู่กับไวรัสชนิดนี้ หลังฉีดวัคซีนแก่ประชาชนจำนวนมาก
มาตรเหล่านี้ แม้จะได้รับความนิยมเป็นวงกว้างภายในจีน แต่ยังเกิดสัญญาณการต่อต้านของประชาชนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น. เมื่อเดือนต.ค. ประชาชน 2 คน ถูกจับกุมหลังพยายามออกจากชุมชนที่มีการล็อกดาวน์. และในสื่อสังคมออนไลน์ บางคนเริ่มไม่พอใจเกี่ยวกับการถูกล็อกดาวน์เป็นเวลานาน และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในท้องถิ่น
