ด.ญ.มะกัน9ขวบหัวไว – วันที่ 3 พ.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เด็กหญิงอเมริกันวัย 9 ขวบ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้รับการยกย่องที่ช่วยชีวิตครอบครัวของตัวเอง หลังพ่อแม่สูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ออกมาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ที่พ่อแม่เด็กยืมมา หลังไฟฟ้าดับทั่วบริเวณ.
ด.ญ.เจย์ลีน บาร์โบซา แบรนโดว์ อยู่บนเตียงนอน เมื่อวันที่ 28 ต.ค. เมื่อได้ยินเสียงพ่อตะโกน จึงวิ่งออกไปหาพ่อกับแม่ ซึ่งหมดสติไป.
พ่อของหนูน้อยสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ไร้สีและกลิ่น. ด.ญ.เจย์ลีนจึงคว้ามือถือของพ่อเพื่อโทรศัพท์ 911. แต่ไอโฟนของพ่อถูกล็อก แต่หนูน้อยถือไอโฟนขึ้นมาจ่อใบหน้าของพ่อ โดยใช้ไอดีเฟซ เพื่อปลดล็อกสำเร็จ.
นางมาร์เซลีนา บรันโดว์ แม่ของเด็ก เล่าเหตุการณ์ว่า จากนั้น ลูกสาวเธอพาน้องสาววัย 7 ขวบออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน.
นางมาร์เซลีนากล่าวว่า ครอบครัวอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าราว 3 วันหลังพายุเข้ามา และยืมเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาใช้ที่บ้าน. เธอติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใกล้ประตูหลังนอกบ้าน และเปิดเครื่องเพียงไม่กี่นาทีก่อนจะปิดเครื่องเพราะมีเสียงดัง.
จากนั้น นางมาร์เซลีนาและสามีของเธอถอดปลั๊กทุกอย่างออกจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และนำมันเข้าไปในบ้านหลังเพื่อเก็บในที่ปลอดภัย. ทั้งคู่คิดว่าเป็นที่ปลอดภัย แต่ตอนนี้ มาร์เซลีนารู้ว่า มันอยู่ใกล้บ้านเกินไป.
คำแนะนำของบริการอากาศแห่งชาติสหรัฐระบุว่า ควรเก็บเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอย่างน้อย 20 ฟุต (6 เมตร) จากประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศ และว่าบ้านควรมีเครื่องตรวจจับคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ใช้งานได้.
นางมาร์เซลีนากล่าวว่า ปวดศีรษะและรู้สึกเวียนหัวและคลื่นไส้ ก่อนหมดสติไป แต่คิดว่าเป็นไมเกรน. จากนั้น ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่ออยู่ในรถฉุกเฉินระหว่างทางไปโรงพยาบาล.
นายไบรัน นาร์เดลลี หัวหน้ากรมดับเพลิงเมืองบรอกตัน บอกว่า 5 คน จากบ้านที่เกิดเหตุถูกนำส่งไปโรงพยาบาลเพื่อรักษา. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในบ้าน และพบระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ 1,000 ส่วนต่อ 1 ล้านส่วน (พีพีเอ็ม) ในบ้าน.
คณะกรรมการความปลอดภัยผู้บริโภคสหรัฐเตือนว่า ความเข้มข้นคงที่สูงกว่า 150 ถึง 200 พีพีเอ็ม อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ผู้สูดดมมึนงง หมดสติ และเสียชีวิต.
นางมาร์เซลีนากล่าวว่า เธอและสามีกำลังดีขึ้น และว่า ห้องนอนของด.ญ.เจย์ลีน ลูกสาวสุดท้องอีกคน และคุณยายของด.ญ.เจย์ลีน ไม่ได้รับผลกระทบจากก๊าซพิษ และว่าการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วของด.ญ.เจย์ลีนช่วยชีวิตครอบครัวแท้ๆ.
“เธอฉลาดมาก เหตุการณ์นั้นน่ากลัวมากๆ หากไม่ใช่เพราะลูกสาวโทรศัพท์ทันที ฉันไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น.” นางมาร์เซลีนากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: