‘เบบี้ชาร์ก’ เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นมานานหลายทศวรรษ ก่อนที่จะกลายเป็นกระแสและฮิตไปทั่วโลกหลังจากที่บริษัทพิงค์ฟองของเกาหลีใต้ ได้ปล่อยเอ็มวีเพลงดังกล่าวออกมาทางออนไลน์ ส่งผลให้เพลงเบบี้ ชาร์กมียอดอดวิวบนยูทูปมากกว่า 9,600 ล้านวิวแล้วในตอนนี้
แต่ใครจะรู้ว่าเพลง ‘เบบี้ชาร์ก’ ที่ถูกเปิดกรอกหูซ้ำไปซ้ำมากลับกลายเป็นวิธีที่ผู้คุมในเรือนจำกลับนำมาใช้ลงโทษนักโทษ จนทำให้พวกเขาถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมนักโทษและสมรู้ร่วมคิด และทางนักโทษที่ถูกลงโทษด้วยวิธีดังกล่าวก็ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อพฤติกรรมข้างต้น
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ladbible รายงานว่า แดเนียล เฮด, โจเซฟ โจอี มิทเชล และจอห์น บาสโค อดีตนักโทษ 3 ราย ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับสิทธิพลเมือง กับทางเรือนจำโอคลาโฮมาเคาน์ตี ในรัฐโอคลาโฮมา ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย.) เหตุทำให้ได้รับความทุกข์ทรมานจากเพลง ‘เบบี้ชาร์ก’ ขณะที่ถูกคุมขังอยู่ที่นั่นเมื่อ 2 ปีก่อน
ตามรายงานการสอบสวนเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ต้องขังอย่างน้อยสี่คนถูกบังคับให้ฟังเพลงเด็กยอดนิยมเสียงดัง และเปิดวนไปซ้ำมาเป็นเวลานานต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปี 2562 ซึ่งการลงโทษนี้เกิดขึ้นในห้องเยี่ยมของเรือนจำ โดยการให้นักโทษยืนใส่กุญแจมือและยืนชิดติดกำแพง
โดยอ้างว่าเพลงเบบี้ชาร์กนั่นถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลงโทษทางวินัยผู้ต้องขังและสอนบทเรียนให้พวกเขา เพราะพวกเขารู้สึกว่าการลงโทษทางวินัยภายในสถานกักขังไม่ได้ผลในการแก้ไขพฤติกรรมของผู้ต้องขัง และยังมองเป็นเรื่องขำขันเท่านั้น
ส่งผลให้อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำสองคนและผู้บังคับบัญชาของพวกเขาถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิด และทารุณกรรมต่อนักโทษ ซึ่งตามรายงานการฟ้องร้อง ระบุว่าเพลงเบบี้ชาร์ก ที่ทางเรือนจำเปิดในขณะนั้น “ดังมากจนส่งเสียงก้องไปตามทางเดิน”
ทางด้าน เดวิด พราเตอร์ อัยการเขตโอคลาโฮมา กล่าวว่า “การใช้ เพลงเบบี้ชาร์ก ในคุกนั้นโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม และทำให้เกิดความเครียดทางอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมต่อผู้ต้องขัง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทุกข์ทรมานอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพลง ‘เบบี้ชาร์ก’ ถูกนำมาเปิดเพื่อเป็นการทรมานผู้คน เพราะในเดือนกรกฎาคมปี 2562 เวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ก็ได้มีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เปิดเพลงเด็กสุดฮิตนี้ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อป้องกันไม่ให้คนเร่ร่อนนอนหลับ ในพื้นที่สาธารณะ ก่อนจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ที่มา : ladbible / abcnews / washingtonpost