ศาลอุทธรณ์มาเลย์ตัดสินยืน – วันที่ 8 ธ.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พิพากษายืนคำตัดสินความผิดของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาทุจริตจากกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุนแห่งรัฐ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1Malaysia Development Berhad: 1MDB) มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการดับความหวังของนายนาจิบที่จะกลับมาเส้นทางการเมืองอีกครั้ง

คำพิพากษายืนดังกล่าวมีขึ้นหลังนายนาจิบอุทธรณ์โทษจำคุก 12 ปี และปรับเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,676 ล้านบาท) ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อปีที่แล้ว จากการทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การใช้อำนาจในทางที่ผิด และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของการสอบสวนที่นายนาจิบกำลังเผชิญในข้อหาทุจริต

FILE – AP Photo/Vincent Thian, File

คดี 1MDB ซึ่งอัยการสูงสุดของสหรัฐระบุว่า เป็นรูปแบบการปกครองระบอบ “โจราธิปไตย” ที่แย่ที่สุด ซ่อนเงาทางการเมืองของมาเลเซียตั้งแต่เกิดคำถามเกี่ยวกับกองทุนนี้เมื่อหลายปีก่อน

ทางการสหรัฐและมาเลเซียระบุว่า เงิน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (150,932 ล้านบาท) เป็นที่เชื่อว่าถูกขโมยจากกองทุน 1MDB และว่าเงินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (33,540 ล้านบาท) ถูกโอนเข้าสู่บัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ

อย่างไรก็ตาม นายนาจิบปฏิเสธความผิดมาตลอด และไม่ยอมรับความผิดในการพิจารณคดีเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าศาลจะพบว่านายนาจิบได้รับได้รับเงินอย่างผิดกฎหมาย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (335.4 ล้านบาท) จากเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล (SRC International) อดีตบริษัทลูกของ 1MDB

FILE – AP Photo/Vincent Thian, File

ผู้พิพาษาศาลอุทธรณ์ อับดุล คาริม อับดุล จาลิล หัวหน้าคณะผู้พิพากษา 3 คน ที่มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์กับศาลชั้นต้นว่าด้วยความผิดและคำพิพากษาของนายนาจิบ และปฏิเสธคำแก้ตัวของนายนาจิบที่ว่าการกระทำของตนเกี่ยวกับบริษัทเอสอาร์ซีเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติ

“ไม่มีจุดใดที่เป็นประโยชน์ของชาติ มีแต่ความน่าอับอายของชาติเท่านั้น” ผู้พิพาษาศาลอุทธรณ์ อับดุล คาริม ระบุ และว่าหลักที่แสดงว่า นายนาจิบรู้หรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าเงินในบัญชีของเขามาจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อพิจารณาว่าเป็นเช่นนั้น

ผู้สนับสนุนเกาะรั้วประตูบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก (AP Photo/Vincent Thian)

การอุทธรณ์ในครั้งนั้นเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดท่ามกลางความวิตกกว่าบรรดาผู้นำพรรครัฐบาลที่กำลังเผชิญข้อหาอาญาอาจได้รับการผ่อนผัน หลังองค์การสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) พรรคการเมืองของนายนาจิบ กลับมามีอำนาจในเดือนส.ค.

การรออุทธรณ์ในครั้งนั้น นายนาจิบได้รับการประกันตัว ส่วนครั้งนี้ ผู้พิพากษาตกลงที่จะคำขอประกันตัวอีกครั้งและคงคำพิพากษา

Malaysian Judiciary via AP

ด้านนายนาจิบกล่าวว่า รู้สึกผิดหวังต่อคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ และจะต่อสู้คดีที่ชั้นศาลฎีกา “ผมไม่รู้ ไม่ได้ขอ และไม่ได้สั่งให้ใครโอนเงิน 42 ล้านริงกิต (ราว 333 ล้านบาท) เข้าบัญชีของผม” นายนาจิบกล่าว

วี. สิธัมบาราม รองอัยการ แถลงข่าวหลังคำพิพากษาว่า กระบวนการอุทธรณ์ของนาจิบที่ศาลฎีกาอาจใช้เวลานานถึงเก้าเดือน

ทั้งนี้ นายนาจิบถูกตั้งข้อหาทั้งหมด 42 ข้อหา และถูกพิจารณาคดี 5 ครั้ง รวมถึงคดีบริษัทลูกเอสอาร์ซี แต่ยังมีอิทธิพลภายในพรรคอัมโน ซึ่งแพ้การเลือกตั้งเมื่อ 3 ปีก่อน ท่ามกลางข้อครหาทุจริตที่แพร่สะพัด และยังจับตาการกลับมาเส้นทางการเมืองอีกครั้ง โดยเคยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อเดือนก.ย.ว่า ไม่ได้ปฏิเสธการหาเสียงเลือกตั้งเข้าสู่รัฐสภา

นายนาจิบยังเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแม้จะมีคดีติดตัว แต่รัฐธรรมนูญห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่จะได้รับอภัยโทษหรือพระราชอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

นาจิบ อดีตนายกฯมาเลย์ ส่อล้มละลาย เซ่นคำสั่งศาล คืนภาษี 1.3 หมื่นล้านบาท

นาจิบ ราซัค อดีตนายกฯ มาเลเซีย ถูกตัดสินว่ามีความผิดทุกข้อกล่าวหาในคดีทุจริต 1MDB

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน