โควิด: วันที่ 18 ธ.ค. บีบีซี รายงานว่า นายฌ็อง กัสแต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เตือนว่า ไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์โอมิครอนกำลังระบาดอย่างรวดเร็วดังสายฟ้าในยุโรป และจะกลายเป็นเชื้อหลักที่ระบาดในฝรั่งเศสภายในต้นปีหน้า
The Omicron variant is ‘bad news’ for Christmas, says one leading epidemiologist
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสแถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนฝรั่งเศสจะใช้ข้อจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดสำหรับผู้เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่างๆ ที่นำมาใช้เพื่อยับยั้งการติดเชื้อ
รวมถึงการลดช่องว่างระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 และ 3 และต้องฉีดวัคซีนครบถ้วนเพื่อเข้าร้านอาหารและการขนส่งสาธารณะทางไกล นอกจากนี้ ยกเลิกการเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าและการแสดงพลุอย่างเป็นทางการทั้งหมด
A person wearing a protective face mask walks through Covent Garden amid the coronavirus outbreak in London. Photograph: Henry Nicholls/Reuters
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสปิดพรมแดนไม่ให้ผู้เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรเพื่อธุรกิจหรือท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 23:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค. โดยมีการต่อแถวจำนวนมากที่ท่าเรือโดเวอร์และอาคารผู้โดยสารยูโรสตาร์ เนื่องจากคนพยายามจะเข้ามาก่อนข้อจำกัดจะมีผลบังคับใช้
นายกัสแต็กซ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะประกาศขั้นตอนใหม่เพื่อจัดการกับความลังเลใจของวัคซีนในปีหน้า โดยกล่าวว่า “เป็นที่ยอมรับไม่ได้ที่การปฏิเสธการฉีดวัคซีนของคนฝรั่งเศส 2-3 ล้านคนทำให้ชีวิตทั้งประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง”
ถ้อยแถลงเตือนของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสมีขึ้นขณะที่สหราชอาณาจักรยังได้รับผลกระทบหนักที่สุดในยุโรป โดยยืนยันผู้ติดเชื้อโอมิครอนเกือบ 15,000 คนจากยอดผู้ติดเชื้อรายวันล่าสุด 93,000 คน ในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ทุบสถิติติดต่อกันเป็นวันที่สาม
ส่งผลให้ชาติยุโรปหลายประเทศทยอยยกระดับมาตรการสกัดกั้นที่เข้มข้นมากขึ้น โดยชาติที่ประกาศยกระดับไปแล้ว อาทิ เยอรมนี ไอร์แลนด์ อิตาลี กรีซ โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์ ขณะที่ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในยุโรปมีกว่า 89 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วกว่า 1.5 ล้านราย
สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันกับเนเธอร์แลนด์ หลังผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มพิกัดทันที ขณะที่นายมาร์ก รึตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เตือนว่า โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของเนเธอร์แลนด์ภายในต้นปีหน้าเช่นเดียวกันกับฝรั่งเศส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
