จีนตั้งแม่ทัพเกาะฮ่องกง ผบ.คอมมานโดอินทรีภูผา-มือปราบกบฏซินเจียง

จีนตั้งแม่ทัพเกาะฮ่องกง ผบ.คอมมานโดอินทรีภูผา-มือปราบกบฏซินเจียง

จีนตั้งแม่ทัพเกาะฮ่องกง – วันที่ 10 ม.ค. เดอะการ์เดียนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีคำสั่งแต่งตั้งพลตรีเปียง จิงถัง อดีตผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายมณฑลซินเจียง เป็นผู้บัญชาการกองทัพจีนในฮ่องกงแล้ว

คำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความพยายามกวาดล้างกลุ่มผู้เรียกร้องระบอบประชาธิปไตยด้วยกฎหมายความมั่นคงฉบับพิเศษที่เพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง หลังการประท้วงลุกลามและกลายเป็นความรุนแรงในบางครั้งตั้งแต่ปี 2562 จากการปราบปรามของตำรวจ

รายงานระบุว่า ธรรมนูญของฮ่องกงแม้จะกำหนดให้ฮ่องกงมีหน่วยงานตำรวจเป็นของตัวเอง แต่กองทัพจีนยังคงมีฐานทัพและคงกำลังทหารไว้ในฮ่องกงนับตั้งแต่ทางการอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 2540

พล.ต.เปียง จิงถัง และนางแคร์รี หล่ำ ประธานบริหารเกาะฮ่องกง (SCMP)

สำหรับพล.ต.เปียง นั้นเดิมดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการฝ่ายตำรวจพิเศษ และผบ.หน่วยตำรวจคอมมานโดในมณฑลซินเจียง โดยเป็นผู้ก่อตั้งหน่วยตำรวจคอมมานโด “อินทรีภูผา” เพื่อภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายทั้งในซินเจียงและทั่วประเทศ

หน่วยตำรวจคอมมานโดอินทรีภูผาของจีนนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของการฝึกฝนที่เข้มข้น หลังพล.ต.เปียง เคยเปิดเผยกับสื่อมวลชนจีนว่า ปริมาณกระสุนจริงที่หน่วยใช้ฝึกซ้อมนั้นมากกว่าหน่วยอื่นๆ เป็น 3 เท่า

หน่วยตำรวจพิเศษที่มณฑลซินเจียง (ADHRRF)

หน่วยดังกล่าวถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงที่ทางการจีนเร่งกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมอุยกูร์และยกระดับระบบการตรวจตราความปลอดภัย หลังอ้างว่ามณฑลซินเจียงเป็นพื้นที่ที่เผชิญกับแนวคิดสุดโต่ง และการแบ่งแยกดินแดน จากชาวมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งเป็นกลุ่มชายขอบในมณฑลดังกล่าว

กลุ่มนักสิทธิมนุษยชน ระบุว่า มีชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคนแล้วที่ถูกทางการจีนจับกุมและควบคุมตัวไว้ในค่ายล้างสมองเพื่อกวาดล้างวัฒนธรรมของชาวอุยกูร์ ส่งผลให้ทางการสหรัฐอเมริกา กล่าวหาทางการจีนว่ากำลังก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ด้านทางการจีนที่พยายามปฏิเสธว่าไม่มีค่ายดังกล่าวอยู่จริงนั้นเปลี่ยนท่าทีมายอมรับถึงการมีตัวตนของค่ายข้างต้น แต่อ้างว่าเป็นค่ายฝึกอบรมเพื่อกำจัดแนวคิดสุดโต่ง พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาของทางการสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ทางการจีนถือว่าการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงนั้นเป็นการก่อการร้าย และความพยายามแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับที่จีนเคยกล่าวอ้างในมณฑลซินเจียง ส่งผลให้มีแกนนำขบวนการประชาธิปไตยในฮ่องกงถูกตัดสินโทษจำคุกหลายคน