จีนเผยตัวเลขผลิต – วันที่ 19 ม.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า จีนผลิตถ่านหินมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากโรงไฟฟ้าของจีนประสบปัญหาในการรับมือความต้องการใช้ไฟฟ้า เป็นการบ่อนทำลายแผนการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
แม้ว่าผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจะช่วยควบคุมวิกฤตพลังงาน แต่ราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ท่ามกลางความคาดหวังว่าจีนจะต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้นอีกเพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ผลผลิตถ่านหินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.07 พันล้านเมตริกตันในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 4.7% จากปี 2563 ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ส่วนการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นเช่นกันในปีที่แล้ว สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556
จีนเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่แล้ว แต่การผลิตถ่านหินที่เป็นประวัติการณ์มีความโดดเด่น เนื่องจากหนึ่งปีที่ผ่านมา จีนกำลังโน้มน้าวมาตรการเชิงรุกเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างจริงจัง
ในเดือนกันยายน 2563 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศว่า จีนจะปลอดคาร์บอนภายในปี 2603 และรัฐบาลดำเนินการอย่างเข้มข้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เพื่อทำให้สิ่งนี้เป็นจริง รวมถึงการปิดเหมืองถ่านหินหลายร้อยแห่ง
ทว่าความทะเยอทะยานเหล่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์แล้วว่าจะบรรลุผลได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ถูกท้าทายจากวิกฤตไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากอุปทานถ่านหินลดลงอย่างรวดเร็ว จีนประสบปัญหาไฟฟ้าขาดแคลนเป็นวงกว้าง รวมทั้งไฟฟ้าดับในครัวเรือน ส่วนโรงงานยังถูกบังคับลดการผลิต เกิดการชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
เพื่อบรรเทาวิกฤต จีนสั่งให้เหมืองเพิ่มการผลิตถ่านหินเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว และในเดือนธันวาคม การผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 7% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 385 ล้านเมตริกตันตันต่อเดือน สถิติล่าสุดชี้ว่า นั่นเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม
แม้แต่ประธานาธิบดีสีมีท่าทีเบาลงน้อยในการพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งบ่งชี้ว่าคณะผู้นำจีนเข้าใจความท้าทายของเป้าหมายของตัวเอง
“จุดสูงสุดของคาร์บอนและความเป็นกลางของคาร์บอนไม่สามารถรับรู้ได้ในชั่วข้ามคืน ด้วยขั้นตอนที่มั่นคงและแน่นอน จีนจะลดระดับการใช้พลังงานดั้งเดิมลงอย่างมีระเบียบระหว่างค้นหาพลังงานใหม่ที่มีความยั่งยืนมาทดแทน” ประธานาธิบดีสีกล่าว
ขณะเดียวกัน ราคาถ่านหินความร้อนในจีน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและให้ความร้อนพุ่งสูงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเกือบ 7% ที่ 775 หยวน (122 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเมตริกตันตามรายงานของตลาดหลักทรัพย์เจิ้งโจว และสัญญาดังกล่าวเพิ่มขึ้น 13% จนถึงปีนี้
หลี่ หยุนชิง เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่กรุงปักกิ่งว่า จีนคาดว่าการใช้พลังงานจะ “เติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่องในปี 2565” การบริโภคในปี 2564 แข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 10.3% จากปี 2563 ตามสถิติของรัฐบาล
นักวิเคราะห์จากกัวไทจุนอัน (Guotai Junan Securities) ธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ของจีน ระบุว่า ราคาถ่านหินที่ฟื้นตัวในเดือนมกราคมส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการห้ามส่งออกถ่านหินจากอินโดนีเซียเมื่อไม่นานนี้ ทั้งที่จีนนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซียมากขึ้นเพื่อทันกับความต้องการใช้ภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมีรายงานจำกัดการนำเข้าจากออสเตรเลียงปลายปี 2563
นักวิเคราะห์ของกัวไทจุนอันคาดว่า ความต้องการถ่านหินจะยังมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากจีนจำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และพลังงานถ่านหินมีความสำคัญต่อแผนดังกล่าว
