สุดช็อก! ชายขาหนีบบวมนาน 10 ปี คิดว่าเป็นไส้เลื่อน พบรังไข่-มดลูกแทนอัณฑะ แพทย์ชี้โรคหายากหนึ่งในสองร้อย

วารสาร Urology Case Reports โดยแพทย์ที่ทำงานที่มหาวิทยาลัยพริสตีนา รายงานเคสสุดหายาก ของชายคนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก ชายวัย 67 ปีจากสาธารณรัฐคอซอวอเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล หลังจากมีอาการบวมที่ขาหนีบ เป็นเวลานานถึงสิบปี

โดยก้อนเนื้อจะใหญ่ขึ้นเมื่อเขายืนขึ้นหรือไอ แต่จะแบนลงเมื่อนอนราบ อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่าเขามีก้อนเนื้อตั้งแต่แรกเกิดหรือไม่ เพราะชายเกิดมาพร้อมกับลูกอัณฑะเพียงลูกเดียว

ภาพจาก Dailymail

แพทย์วินิจฉัยว่าเขามีอาการไส้เลื่อน (Cryptorchidism) ที่มีส่วนนูนมีขนาด 15 × 10 ซม. โดยเนื้อเยื่อเคลื่อนเข้าไปในขาหนีบที่ด้านบนของต้นขาด้านใน แต่ในระหว่างการผ่าตัด ศัลยแพทย์กลับพบว่าก้อนมวลที่น่าสงสัยนั้นแท้จริงแล้วคือ อวัยวะเพศหญิง! แพทย์พบโครงสร้างคล้ายลูกแพร์ ไม่ว่าจะมดลูก, ปากมดลูก, ท่อนำไข่, รังไข่ รวมทั้งลูกอัณฑะที่หายไป ถุงอัณฑะที่มีท่อนำไข่ และลูกอัณฑะที่มีรังไข่ติดอยู่ ซึ่งแพทย์ตัดสินใจผ่าตัดนำก้อนเนื้อออกทั้งหมด ประกอบด้วยลูกอัณฑะตีบ มดลูก ท่อนำไข่ รวมทั้งเนื้องอกสี่ชิ้น

ต่อมาชายคนนั้นก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่หายากอย่างเหลือเชื่อที่เรียกว่า Persistent Mullerian duct syndrome (PDMS) ผลการวิจัยรายงานผู้ป่วยเพียง 200 รายเกี่ยวกับภาวะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้ชายมีอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงควบคู่ไปกับองคชาตและถุงอัณฑะ

PMDS เป็นอาการท่อมัลเลเรียนหรือ Mullerian duct แบบถาวร สาเหตุของโรคนี้ไม่ชัดเจนนัก แต่น่าจะเกิดจากข้อบกพร่องในการสังเคราะห์และการหลั่งของ MIF หรือข้อบกพร่องของตัวรับ MIF ซึ่งทารกในครรภ์ของมนุษย์ทั้งหมดพัฒนาฮอร์โมนเพศที่จุดเริ่มต้นของมดลูก ที่เรียกว่าท่อมัลเลเรียน ซึ่งจะเสื่อมสลายไปในช่วงแรกของการพัฒนาของอวัยวะเพศชายที่สร้างเทสโตสเตอโรน แต่ในกรณีที่หายาก หากท่อมัลเลเรียนไม่เสื่อมสลายไปจะส่งผลให้เด็กชายบางคนเกิดมาพร้อมกับอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งสองอวัยวะ

แพทย์ประเมินว่าผู้ป่วย PMDS ระหว่าง 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ต้องทนทุกข์ทรมานจากไส้เลื่อนขาหนีบ ภาวะมีบุตรยาก โรคต่อมไร้ท่อ และ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นหมัน แต่แพทย์สังเกตว่าอาการดังกล่าวไม่เคยส่งผลกระทบต่อความสามารถในการสืบพันธุ์ของผู้ป่วยชายดังกล่าว เนื่องจากเขามีลูกสามคนและองคชาตที่พัฒนาอย่างดี โดยมีการเปิดท่อปัสสาวะในตำแหน่งที่ถูกต้อง

ขอบคุณที่มาจาก Urology Case Reports Dailymail ladbible

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน