ดัตช์รื้อสะพานโบราณขวางเรือเจฟเบซอส ชาวบ้านมองแรงอภิสิทธิ์ชนไปมั้ย?
ดัตช์รื้อสะพานโบราณขวางเรือเจฟเบซอส – วันที่ 3 ก.พ. ดีดับเบิ้ลยูรายงานว่า สภาเมืองรอตเทอร์ดาม มหานครใหญ่อันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์เตรียมรื้อถอนสะพานเหล็กโบราณ De Hef เพื่อให้เรือสำราญหรูส่วนตัวของนายเจฟฟ์ เบซอส เศรษฐีอันดับสองของโลกผ่านออกทะเล
เหตุเกิดหลังนายเบซอส ชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งเครือธุรกิจแอมะซอน สั่งต่อเรือสำราญส่วนตัวสูง 40 เมตร ในราคา 485 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ที่อู่ต่อเรืออัลบลาสเซอร์ดามใกล้กับนครรอตเทอร์ดาม แต่เรือออกสู่ทะเลไม่ได้เพราะติดสะพานดังกล่าว
เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งเครือธรกิจแอมะซอน วัย 57 ปี (นิวยอร์กเกอร์)
สะพานเหล็กแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์คู่กับนครรอตเทอร์ดาม รู้จักกันในชื่อว่าสะพานชัก คอนนิงเชเวิน บริดจ์ เป็นทางผ่านของรางรถไฟ แม้จะสามารถชักให้ยกตัวสูงขึ้นไปได้เพื่อให้เรือผ่านแต่ก็ยังสูงได้ไม่มากพอที่จะให้เรือสำราญหรูลำนี้ผ่านออกจากอู่ต่อเรือไปสู่ทะเล
ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้นายเบซอสเสนอออกค่าใช้จ่ายรื้อถอนสะพานดังกล่าวออกชั่วคราวให้ทั้งหมด แต่สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในละแวก เนื่องจากกังวลว่าสะพานโบราณแห่วนี้อาจได้รับความเสียหายจากการรื้อถอน
ด้านโฆษกสภาเมืองรอตเทอร์ดาม กล่าวว่า การสัญจรผ่านสะพานแห่งนี้มีความจำเป็นเพราะเป็นทางออกสู่ทะเลทางเดียว โดยการรื้อถอนนั้นคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มในฤดูร้อนที่จะมาถึงนี้
สะพานชัก De Hef bridge ที่นครรอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (larazon)
เหตุที่เกิดขึ้นนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในละแวกที่หวงแหนสะพานเหล็กดังกล่าวหลังทางสภาเมืองบูรณะแล้วสัญญาว่าจะไม่แตะต้องมันอีกในปี 2560
สะพานชัก คอนนิงเชเวิน บริดจ์ หรือสะพาน De Hef แห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2421 ได้รับความเสียหายยับเยินช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและถูกสร้างขึ้นใหม่ ต่อมาทางสภาเมืองเคยมีแผนจะทำลายทิ้งแต่ต้องยอมล้มเลิกหลังชาวบ้านประท้วงในปี 2536
นายทอน เวสลิงค์ ประธานสมาคมประวัติศาสตร์นครรอตเทอร์ดาม กล่าวว่า นครแห่งนี้มีโบราณสถานเพียงไม่กี่แห่งเพราะถูกทำลายไปมากช่วงสงคราม และพวกตนก็ชื่นชอบสะพานแห่งนี้มาก
“มันเพิ่งได้รับการบูรณะมาเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้เองครับ แล้วจู่ๆ ก็จะมารื้อถอนมันออกไป ทั้งที่เคยให้สัญญาแล้วว่าจะไม่แตะต้องมันอีก ไม่แน่ชัดว่าเพราะเหตุอะไร แค่เรือจะผ่านแค่เนี้ยครับ ถึงกับจะต้องมารื้อกันยกใหญ่ ความเสี่ยงต่อความเสียหายจากการรื้อถอนมันมีอยู่เสมอนะครับ”
ทั้งนี้ นายเบซอส อายุ 57 ปี เป็นมหาเศรษฐีอันดับสองของโลกรองจากนายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ และเทสล่า โดยนายเบซอสนั้นมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 เช่นเดียวกันกับมหาเศรษฐีอีกหลายคน
ด้านนายกเทศมนตรีนครอตเทอร์ดาม กล่าวปกป้องการให้อภิสิทธิ์นี้แก่นายเบซอส ว่านครรอตเทอร์ดามนั้นโกยรายได้มหาศาลจากการต่อเรือสำราญของนายเบซอส ซึ่งเป็นการสร้างงานที่สำคัญอีกทางหนึ่งด้วย
