ทรัมป์ได้ทีเย้ยอิหร่าน ประชาชนลุกฮือเศรษฐกิจย่ำแย่ ซัดเอาเงินไปหนุนก่อการร้าย

เมื่อ 30 ธ.ค. บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา กล่าวประณามกรณีที่มีผู้ชุมนุมชาวอิหร่านโดนเจ้าหน้าที่จับกุม ภายหลังชาวอิหร่านลุกฮือประท้วงครั้งใหญ่ในหลายเมืองทั่วประเทศ เนื่องจากเบื่อหน่ายกับการบริหารงานของรัฐที่ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูง

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่า “มีรายงานข่าวว่าบรรดาชาวอิหร่านออกมาชุมนุมประท้วงโดยสันติ เพราะไม่พอใจรัฐบาลที่คอร์รัปชั่น และใช้เงินภาษีประชาชนไปกับการสนับสนุนการก่อการร้าย”

และว่า “รัฐบาลอิหร่านควรเคารพสิทธิเสรีภาพของชาวอิหร่าน รวมไปถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โลกกำลังจับตาอิหร่านอยู่”

ด้านนายอิชาค ยาฮันกีรี รองประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่าการประท้วงอาจมีเบื้องหลังจากการยุยงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นปัจจุบันมักใช้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจมาบังหน้า แต่พอตรวจสอบเข้าจริงก็จะพบว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังเสมอ

การประท้วงที่เมืองเคอร์มันชาห์

ทางการอิหร่านระบุว่าเป็นความพยายามปลุกปั่นทางการเมืองของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนรัฐบาลออกมาชุมนุมทั่วประเทศอ้างว่าเนื่องในโอกาสครบรอบการประท้วงต่อต้านขบวนการนักปฏิรูปเมื่อปี 2552 สมัยที่นายมาห์มูด อามาดิเนจาด ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน

การประท้วงล่าสุดเกิดขึ้นครั้งแรกที่นครมาชฮัด เมืองใหญ่อันดับสองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิหร่าน โดยผู้พากันเดินขบวนแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลกรณีค่าครองชีพพุ่งสูง ซึ่งผู้ประท้วงพุ่งเป้าโจมตีไปที่ประธานาธิบดีฮัสซาน เราฮานี ส่งผลให้มีผู้ประท้วงโดนเจ้าหน้าที่จับกุม 52 คน อ้างว่าใช้สโลแกนที่รุนแรงเกินความเหมาะสม

ต่อมาการชุมนุมลุกลามไปอีกหลายเมือง อาทิ เคอร์มันชาห์ ราชต์ อิสฟาฮาน คอม และกรุงเตหะราน มีผู้เข้าร่วมหลายพันคน

ขณะที่ภาพจากสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยควบคุมฝูงชนตรึงพื้นที่อย่างหนาแน่น ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในอิหร่านหลังบรรดาผู้สนับสนุนการปฏิรูปประเทศออกมาชุมนุมในปี 2552