วันที่ 11 ก.พ. เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานสถานการณ์ความตึงเครียดที่พรมแดนยูเครนว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้พลเมืองสหรัฐทั้งหมดในยูเครนเดินทางออกไปทันที โดยอ้างถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของการดำเนินกิจกรรมทางทหารของรัสเซีย

 

หลังรัสเซียระดมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นาย ใกล้พรมแดนยูเครน แม้จะปฏิเสธแผนการรุกรานยูเครนมาตลอด และเพิ่งเริ่มการซ้อมรบขนาดใหญ่เป็นเวลา 10 วัน กับเบลารุส ชาติเพื่อนบ้านพันธมิตรรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับยูเครนและสหภาพยุโรป (อียู)

นาย ไบเดน ให้สัมภาษณ์เอ็นบีซีนิวส์ว่า สหรัฐกำลังจัดการกับกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันมาก และหลายสิ่งอาจบ้าคลั่งได้อย่างรวดเร็ว และย้ำจะไม่มีการส่งกองกำลังทหารสหรัฐไปยูเครนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใด รวมถึงช่วยเหลือพลเมืองอเมริกันในกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน

“นั่นเป็นสงครามโลก เราอยู่ในโลกแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก เมื่อชาวอเมริกันและชาวรัสเซียเริ่มยิงกัน” นาย ไบเดน กล่าว

คำสัมภาษณ์ของนายไบเดนเผยแพร่ไม่กี่ชั่วโมงหลังรัสเซียเคลื่อนรถถังข้ามพรมแดนเบลารุสเพื่อซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ซึ่งสหรัฐระบุจำนวนกำลังทหารรัสเซียที่ซ้อมรบราว 30,000 นาย วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กำลังทหารรัสเซีย 400 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบทางยุทธวิธีในแคว้นรอสตอฟ ทางใต้ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน โดยทหารจะจัดฉากปฏิบัติการรบ ด้วยยานพาหนะทางทหาร รถถัง เครื่องยิงลูกระเบิด และอุปกรณ์ทางอากาศไร้คนขับ ทั้งหมด 70 อัตรา

จวกยับรัสเซีย “ทำตึงเครียด”

This handout video grab released by the Russian Defence Ministry shows combat crews of the S-400 air defense system taking up combat duty during joint exercises of the armed forces of Russia and Belarus as part of an inspection of the Union State’s Response Force. AFP/Russian Defence Ministry

นอกจากนี้ รัสเซียส่งเรือรบ 6 ลำ ผ่านช่องแคบบอสพอรัส เพื่อซ้อมรบในทะเลดำและทะเลอาซอฟที่อยู่ใกล้เคียง ส่วนกองเรือทะเลดำจัดการซ้อมรบ รวมถึงฝึกการค้นหาและทำลายเรือศัตรูจำลอง เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฝึกรบ ซึ่งยูเครนกล่าวหาว่าปิดกั้นการเข้าถึงทะเลทั้งสอง ขณะที่รัสเซียระบุว่าต้องการตี “เส้นแดง” เพื่อให้แน่ใจว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แต่สหรัฐและนาโตปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซียอย่างเป็นทางการไปแล้ว

วันเดียวกัน นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหลังการประชุมของรมว.ต่างประเทศจากกลุ่มควอด ได้แก่ สหรัฐ ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น ในนครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ว่า รัสเซียกำลังรวบรวมกำลังทหารที่พรมแดนยูเครนเพิ่มขึ้น และเตือนว่าการบุกรุกอาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ รวมถึงระหว่างมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวด้วยที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.พ.

รัสเซียยกพล 3 หมื่นนาย

ภาพประกอบ: A satellite image shows a troop housing area and a vehicle park in Rechitsa, Belarus, February 4, 2022. Picture taken February 4, 2022. Maxar Technologies/Handout via REUTERS

“พูดง่ายๆ คือว่า เรายังเห็นสัญญาณน่าหนักใจของการยกระดับความตึงเครียดของรัสเซีย” นายบลิงเคนกล่าว และยืนยันว่า สหรัฐต้องการแก้ปัญหาความเห็นต่างกับรัสเซียผ่านวิธีการทูต แต่ขณะเดียวกัน สหรัฐมีความชัดเจนมากในการสร้างการป้องปรามและการป้องกัน และแสดงให้รัสเซียเห็นอย่างชัดเจนว่า หากรัสเซียเลือกหนทางแห่งการรุกรานครั้งใหม่จะเผชิญกับผลพวงมหาศาล

ทั้งนี้ บรรดาผู้นำโลกยังดำเนินการเจรจาอย่างจริงจังเพื่อพยายามคลี่คลายวิกฤตการณ์ยูเครน แต่รัสเซียและยูเครนประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. ว่า ทั้งสองไม่สามารถแก้ปัญหาใดได้ด้วยการเจรจาเพียง 1 วันกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่หวังจะยุติความขัดแย้งการแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
จวกยับรัสเซีย “ทำตึงเครียด” ชี้มีแผนซ้อม “ยุทธศาสตร์นิวเคลียร์” ร่วมกับเบลารุส

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน