จวกยับ “ปูติน” รับรองพื้นที่แยกแดน กร้าวยูเครนไม่เคยเป็นประเทศ-ส่งทัพรัสเซียคุม
จวกยับ “ปูติน” รับรองพื้นที่แยกแดน – วันที่ 22 ก.พ. เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังจาก ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามในประกาศรับรอง สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน พื้นที่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซีย เป็นรัฐเอกราช
พร้อมประกาศส่งกองทัพรัสเซียเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อ “ทำหน้าที่รักษาสันติภาพ” ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าจะเกิดการปะทะนองเลือดเนื่องจากรัสเซียสามารถใช้ข้ออ้างในการรับรองรัฐอิสระเพื่อส่งกองทัพเข้าไปตรึงกำลังในยูเครนได้อย่างเป็นทางการ
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น โดยวิจารณ์รัฐบาลยูเครนและเรียกว่าเป็นหุ่นเชิดของอาณานิคมสหรัฐอเมริกา ก่อนระบุว่ายูเครนไม่เคยมีประวัติศาสตร์เป็นประเทศที่แท้จริง และยูเครนในปัจจุบันสร้างโดยรัสเซีย
ความคิดของทางการยูเครนที่ต้องการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของรัสเซีย หนำซ้ำองค์การนาโตยังเพิกเฉยต่อความกังวลของรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำอีก จากนั้นช่วงท้ายนายปูตินกล่าวว่ารัสเซียจะรับรองดินแดนที่กลุ่มกบฏยึดครอง และเตือนว่ายูเครนต้องหยุดยิงในพื้นที่ดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ผู้นำชาติมหาอำนาจแถลงตำหนิประธานาธิบดีปูตินอย่างกว้างขวาง โดย ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วย ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และ นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ผู้นำเยอรมนี ร่วมประณามนายปูตินและว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงสันติภาพกรุงมินสก์เพื่อยุติสงครามในดอนบัสหรือสงครามในยูเครนตะวันออก เมื่อปี 2557
ด้าน นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่าการตัดสินใจของนายปูตินจำเป็นต้องมีการตอบสนองที่รวดเร็วและหนักแน่น สหรัฐจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมโดยประสานงานกับประเทศพันธมิตร
นอกจากนี้ทางการสหรัฐยังประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยนายไบเดนจะลงนามในคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีเพื่อห้ามการลงทุน การค้า และการจัดหาเงินทุนใหม่โดยชาวอเมริกันในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ของยูเครน และคำสั่งพิเศษจะให้อำนาจในการคว่ำบาตรต่อบุคคลใดก็ตามที่ประสงค์จะดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงประณามการตัดสินใจของนายปูตินว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพของยูเครนอย่างชัดเจน สหราชอาณาจักรจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่แข็งแกร่งมากต่อรัสเซียในทันทีที่มีการรุกรานยูเครน
นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ นายชาร์ล มีแชล ประธานคณะมนตรียุโรป สองผู้นำอาวุโสของสหภาพยุโรป (อียู) ประณามการเคลื่อนไหวของนายปูตินว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมย้ำว่าสหภาพยุโรปและพันธมิตรจะตอบสนองด้วยความสามัคคี ความแน่วแน่ และความมุ่งมั่นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับยูเครน
นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่าการตัดสินใจของรัสเซียเป็นการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของยูเครน รวมทั้งไม่สอดคล้องกับหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ
ส่วน นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การนาโต ระบุว่าการตัดสินใจของนายปูตินบ่อนทำลายอธิปไตยของยูเครน หนำซ้ำยังกัดกร่อนความพยายามแก้ปัญหาความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลงกรุงมินสก์ซึ่งรัสเซียเป็นภาคี
“มอสโกยังคงจุดชนวนความขัดแย้งในยูเครนตะวันออกโดยให้การสนับสนุนทางการเงินและการทหารแก่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน นอกจากนี้ยังพยายามแสดงข้ออ้างเพื่อบุกยูเครนอีกครั้ง” นายสโตลเทนเบิร์กกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: