เกาหลีใต้ป่วยโควิดเกิน 1.7 แสนคน “สองวันติด” คาดต้นเดือนหน้าทะลุ 2.7 แสนคน

เกาหลีใต้ป่วยโควิดเกิน 1.7 แสนคนยอนฮัป รายงานวันที่ 24 ก.พ. ถึงกระแสวิตกกังวลสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ใน เกาหลีใต้

หลังสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (เคดีซีเอ) แถลงว่าพบผู้ป่วยใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอีก 170,016 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศมากถึง 169,846 คน เนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนยังระบาดหนัก

เกาหลีใต้ป่วยโควิดเกิน 1.7 แสนคน

People wait in line to undergo a COVID-19 test at a temporary testing site in Seoul, South Korea. REUTERS/ Heo Ran/File Photo

ถือเป็นผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 170,000 คนต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังเกาหลีใต้เพิ่งทุบสถิติมีผู้ติดเชื้อใหม่มากเป็นประวัติการณ์ที่ 171,452 คนเมื่อวันพุธที่ 23 ก.พ. ส่งผลให้ยอดสะสมเพิ่มเป็นเกือบ 2.5 ล้านคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 7,689 ราย

เคดีซีเอระบุอีกว่าผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 581 คน เพิ่มเกือบ 3 เท่าจากราวๆ 200 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้กล่าวว่าคลื่นโอมิครอนอาจพุ่งถึงจุดสูงสุดช่วงต้นเดือนมี.ค. และอาจส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากถึง 270,000 คน ส่วนผู้ป่วยอาการหนักมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,000 คนต่อวัน

เกาหลีใต้ป่วยโควิดเกิน 1.7 แสนคน

People wait in line to undergo the coronavirus disease (COVID-19) test at a temporary testing site set up in Seoul, South Korea. REUTERS/ Heo Ran

เกาหลีใต้ป่วยโควิดเกิน 1.7 แสนคน

The country reported 170,016 new COVID-19 infections, including 169,846 local cases, raising the total caseload to 2,499,188, according to the Korea Disease Control and Prevention Agency (KDCA). REUTERS/ Heo Ran

“สองวันติด” คาดต้นเดือนหน้าทะลุ 2.7 แสนคน

A healthcare worker collects a swab sample from a woman to test for the coronavirus disease (COVID-19), at a temporary testing site set up at a railway station, in Seoul, South Korea. REUTERS/ Heo Ran

“สองวันติด” คาดต้นเดือนหน้าทะลุ 2.7 แสนคน

People wait in line to undergo the coronavirus disease (COVID-19) test at a temporary testing site set up at City Hall Plaza in Seoul, South Korea. REUTERS/ Heo Ran

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน