จีนขอโทษชาวบ้าน ล็อกดาวน์ต้านโควิดจนขาดแคลนอาหารการกิน

จีนขอโทษชาวบ้าน – วันที่ 29 มี.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการนครฉางชุน เมืองเอกมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ขอโทษต่อประชาชน 8.5 ล้านชีวิต ที่ต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร สืบเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ

คำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจีนเผชิญกับการระบาดในหลายพื้นที่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 หรือสเตลธ์ (ล่องหน) เพราะตรวจไม่พบด้วยวิธีมาตรฐานอย่าง PCR

จีนขอโทษชาวบ้าน

นายหลิว เหลินหยวน รองเลขานุการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำนครฉางชุน กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนอาหารมาจากตลาดสดที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งในเมืองต้องปิดตัวลง และถูกตอกย้ำด้วยปัญหาการขาดแคลนคนทำงาน ส่งผลให้การขนส่งอาหารยิ่งล่าช้าไปอีก

“ทางฝ่ายบริหารมีความรู้สึกวิตกกังวลและเดือดดาลกับไม่พอใจกับปัญหานี้เช่นกัน จึงใคร่ขอกราบขอขมาอย่างสุดซึ้งไปยังพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สะดวกดังกล่าว” นายหลิว ระบุ

จีนขอโทษชาวบ้าน

เบื้องต้นการแก้ไขปัญหานั้นทางการมณฑลจี๋หลินจัดส่งผักสด 1,000 ตัน ส่งไปยังนครฉางชุนเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพระหว่างการล็อกดาวน์ของประชาชน และจะเดินหน้าปราบปรามการลักลอบขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะผักสดอย่างเด็ดขาด

รายงานระบุว่า นครฉางชุน และอีกหลายพื้นที่ของมณฑลจี๋หลิน กำลังเผชิญกับการระบาดอย่างหนักหน่วงของโรคโควิด-19 โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่หลายพันคนต่อวัน มาตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.

ด้านผู้อยู่อาศัยในนครฉางชุน กล่าวตัดพ้อว่า “ในเมืองไม่มีอาหารขายเลย ผมต้องอาศัยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประทังชีวิต ทำอะไรไม่ได้แล้วด้วย คงต้องรอให้ล็อกดาวน์มันจบก่อน”

ทั้งนี้ ทางการมณฑลจี๋หลินมีคำสั่งล็อกดาวน์ทั้งมณฑล โดยเรียกว่าเป็นไพ่ใบสุดท้ายในการสกัดกั้นการระบาดมาตั้งแต่ 14 มี.ค. ตามยุทธศาสตร์ ซีโร่ โควิด ของจีน ตามด้วยการระดมตรวจหาผู้ติดเชื้อและคัดแยกผู้ป่วยออกจากสังคม เช่น นครฉางชุนนั้นตรวจทั้งเมืองไปแล้วถึง 10 รอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน