พลเรือนตายอื้อใกล้เคียฟ หลังรัสเซียถอนทัพ หมีขาวอ้างปลอม ชี้ศพในคลิปขยับได้

พลเรือนตายอื้อใกล้เคียฟ – วันที่ 3 เม.ย. เอเอฟพี รายงานบรรยากาศในเมืองบูชา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 2 เม.ย. หลังกองทัพรัสเซียถอนกำลังออกไปจากเมืองสำคัญรอบเมืองหลวงว่า พลเรือนนอนเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย บนถนนสายเดียว บางส่วนถูกมัดมือไพล่หลังอย่างเห็นได้ชัด

คนตาย นอนหงาย คาจักรยาน

RONALDO SCHEMIDT / AFP

คนตาย นอนตะแคง คาจักรยาน

RONALDO SCHEMIDT / AFP

คนเดินผ่านร่างผู้เสียชีวิต

RONALDO SCHEMIDT / AFP

คนตายเกลื่อนถนน

RONALDO SCHEMIDT / AFP

นายอะนาโตลี เฟโดรุค นายกเทศมนตรีเมืองบูชา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกยิงที่ด้านหลังศีรษะ และมีผู้เสียชีวิตด้วยว่ายังมีอีก 280 ศพ ที่ถูกฝังอยู่ในสุสานหมู่ของเมือง และเมืองนี้เกลื่อนไปด้วยร่างผู้เสียชีวิต

ร่างคนนอนคว่ำ

Sergei SUPINSKY / AFP

ผู้เสียชีวิตถูกมัดมือไพล่หลัง

Sergei SUPINSKY / AFP

หมาเฝ้าศพ

Sergei SUPINSKY / AFP

นายดมีโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวหากองทัพรัสเซียสังหารพลเรือนหลายร้อยรายในเมืองบูชา และเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการเจตนาสังหารหมู่ “เรายังรวบรวมและค้นหาศพ แต่จำนวนเกินร้อยรายแล้ว ศพนอนอยู่บนถนน พวกเขาฆ่าพลเรือนขณะอยู่ที่นั่น และเมื่อพวกเขาออกจากหมู่บ้านและเมืองเหล่านี้” นายคูเลบากล่าว และเรียกร้องให้กลุ่มประเทศจี 7 กำหนดมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่รุนแรงต่อรัสเซีย

ภาพถ่ายและวิดีโอบรรยากาศจากเมืองบูชาสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกและเรียกปฏิกิริยาจากนานาชาติ เช่น นายโรแบร์ต ฮาเบค รองนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บิลด์ว่า “อาชญากรรมสงครามที่น่าสยดสยองนี้ไม่สามารถหาคำตอบได้ ผมคิดว่าจำเป็นต้องมีมาตรการคว่ำบาตร นั่นคือสิ่งที่เรากำลังเตรียมดำเนินการกับพันธมิตรในสหภาพยุโรปของเรา”

อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “รู้สึกตกตะลึงกับรายงานความน่าสะพรึงกลัวที่พูดไม่ออกในพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียกำลังถอนออกไป จำเป็นต้องมีการสอบสวนอย่างอิสระโดยด่วน ผู้กระทำความผิดในอาชญากรรมสงครามจะต้องรับผิดชอบ”

ส่วนลิซ ทรูส รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุควรสอบสวนกรณีที่กองทัพรัสเซียโจมตีพลเรือนยูเครนไม่เลือกหน้าในฐานะอาชญากรรมสงคราม และให้คำมั่นว่าให้อังกฤษจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับการสอบสวนโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ

เทเลแกรม กลาโหม รัสเซีย ข่าวปลอม

ช่องเทเลแกรม กระทรวงกลาโหมรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ช่องเทเลแกรมของกระทรวงกลาโหมรัสเซียแชร์ รายงาน ที่ระบุว่า กองทัพรัสเซียออกจากเมืองบูชาเมื่อวันที่ 30 มี.ค. และตั้งคำถามว่าภาพช่วง 4 วันหลังจากนั้นไปอยู่ที่ไหน จึงยืนยันว่ารายงานการเสียชีวิตของพลเรือนในเมืองบูชาเป็นข่าวปลอม

รายงานดังกล่าวยังอ้างว่าวิดีโออันหนึ่งที่บันทึกจากเมืองบูชา เมื่อเล่นด้วยความเร็วช้ากว่าปกติ 0.25 เท่า มีจุดสังเกต 2 จุด เป็นของปลอม

จุดแรก วินาทีที่ 12 จากด้านขวา ศพขยับแขนข้างขวาของตัวเองได้ และจุดที่สอง วินาทีที่ 30 จากกระจกมองหลังรถ ศพกำลังนั่งลง ส่วนศพจำนวนมากถูกจงใจนำออกมาวางเพื่อสร้างภาพสะเทือนอารมณ์มากขึ้น

แต่ผู้สื่อข่าวบีบีซีจากกรุงมอสโกตรวจสอบวิดีโอ ไม่พบหลักฐานว่าศพเคลื่อนไหว บีบีซียังเล่นวิดีโอดังกล่าวด้วยความเร็วที่ช้าลง ไม่พบการเคลื่อนไหวของศพเช่นกัน

รายงานดังกล่าวอ้างอีกว่า หลังกองทัพรัสเซียออกจากเมืองบูชา “กองทัพยูเครนเข้าโจมตีเมืองด้วยปืนใหญ่ ซึ่งอาจทำให้พลเรือนเสียชีวิตได้” ขณะที่สุสานหมู่ในเมืองบูชา ชาวยูเครนเป็นคนทำ

เทเลแกรม กลาโหม รัสเซีย ข่าวปลอม

ช่องเทเลแกรม กระทรวงกลาโหมรัสเซีย

ต่อมา ช่องเทเลแกรมของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ ข้อความอีกชุด ปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลยูเครนเกี่ยวกับการสังหารพลเรือนในเมืองบูชา อ้างว่า ภาพถ่ายและวิดีโอทั้งหมดที่เผยแพร่โดยรัฐบาลยูเครนที่อ้างเป็นพยาน “อาชญากรรม” โดยฝีมือทหารรัสเซียในเมืองบูชา เป็นเพียงการยั่วยุอีกครั้งหนึ่ง

“ในช่วงเวลาที่เมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย ไม่มีผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นรายใดได้รับความทุกข์ทรมานจากการกระทำรุนแรงใดๆ ทหารรัสเซียส่งมอบและแจกจ่ายความช่วยเหลือมนุษยธรรมแก่พลเรือนเป็นจำนวน 452 ตัน ตราบใดที่เมืองอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย จนถึงตอนนี้ชาวบ้านในเมืองบูชาเดินทางอย่างอิสระไปทั่วเมืองและใช้โทรศัพท์มือถือได้” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ชาวเมืองบูชาทุกคนมีอิสระที่จะเดินทางออกจากเมืองไปทางเหนือ รวมถึงสาธารณรัฐเบลารุส ขณะเดียวกัน เขตชานเมืองทางใต้ของเมือง รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัย ถูกกองทหารยูเครนโจมตีตลอดเวลาด้วยปืนใหญ่ลำกล้องใหญ่ รถถัง และระบบจรวดยิงหลายลำ และย้ำว่า ทหารรัสเซียทุกหน่วยถอนกำลังออกจากเมืองบูชาอย่างสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งเป็น 1 วันจากการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครนในตุรกี

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายอะนาโตลี เฟโดรุค นายกเทศมนตรีเมืองบูชา เป็นผู้ยืนยันว่า ไม่มีทหารรัสเซียอยู่ในเมืองอยู่ แต่ไม่ได้พูดถึงชาวบ้านที่ถูกยิงบนถนนโดยและถูกมัดมือไพล่หลัง

“จึงไม่น่าแปลกใจที่สิ่งที่เรียกว่า “หลักฐานการก่ออาชญากรรม” ทั้งหมดในเมืองบูชาไม่ได้เกิดขึ้นจนเข้าสู่วันที่สี่หลังจากนั้น (วันที่ 2 เม.ย.) เมื่อหน่วยความมั่นคงของยูเครนและตัวแทนสื่อยูเครนมาถึงเมืองบูชา

“เป็นที่น่ากังวลเป็นพิเศษว่า ร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่มีภาพเผยแพร่โดยรัฐบาลยเครนจะไม่แข็งตัวหลังผ่านไปอย่างน้อย 4 วัน ไม่มีคราบของศพตามปกติ และบาดแผลมีเลือดที่ยังไม่แห้ง

“ทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันโดยสรุปว่า ภาพถ่ายและวิดีโอจากเมืองเป็นอีกผลงานหนึ่งของรัฐบาลยูเครนสำหรับสื่อตะวันตก เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในเมืองมารีอูโปลที่โรงพยาบาลแม่และเด็กถูกถล่ม และในเมืองอื่นๆ” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ยูเครน อ้างยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดรอบเคียฟ ผู้นำเผยรัสเซียอยากยึดดอนบาส-ทางใต้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน