แค่คู่แข่งหรือศัตรู? โพลชี้คนอเมริกันมองจีนในแง่ลบมากขึ้น

แค่คู่แข่งหรือศัตรู? – วันที่ 28 เม.ย. เอพีรายงานว่า ชาวอเมริกันมีแนวโน้มมองจีนในฐานะชาติมหาอำนาจที่เป็นภัยคุกคามมากขึ้น แม้ส่วนใหญ่จะยังมองจีนในฐานะ “คู่แข่ง” มากกว่าศัตรูที่ต้องประหัตประหารกันก็ตาม

ข้อสรุปดังกล่าวมาจากโพลสำรวจของศูนย์วิจัย Pew กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามมองจีนในแง่ลบมากถึงร้อยละ 82 ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ของการมองชาติอื่นในแง่ลบ และสูงขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 6 เฉพาะจีน

การสำรวจยังพบด้วยว่า ชาวอเมริกันวัยทำงานที่ตอบแบบสอบถามมองว่าอิทธิพลของจีนกำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสองในสามส่วนนั้นมองว่าอำนาจของทางการจีนเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของชาวอเมริกันที่มองว่าจีนเป็นเพียงคู่แข่งนั้นมีมากขึ้นจากร้อยละ 54 เมื่อเดือนม.ค. เพิ่มเป็น 62 ส่วนกลุ่มที่มองว่าจีนเป็นศัตรูที่ต้องทำลายล้างให้หมดสิ้นไปนั้นลดลงเหลือร้อยละ 25 จากเดิมร้อยละ 35 เมื่อเดือนม.ค.

นางลอร่า ซิลเวอร์ นักวิเคราะห์ข้อมูลอาวุโสจากศูนย์ Pew กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลระยะสั้นที่มีปัจจัยหลักมาจากสงครามยูเครน

การสำรวจดังกล่าวดำเนินการเมื่อ 21-27 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 3,581 คน มีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ราวร้อยละ 2.3

ทว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมุมมองของชาวอเมริกันต่อรัสเซียนั้นค่อนข้างมาก โดยชาวอเมริกันที่มองว่ารัสเซียเป็นศัตรูที่ต้องทำลายล้างกันนั้นเพิ่มเป็นร้อยละ 70 จากเดิมร้อยละ 41 เมื่อเดือนม.ค.

นางซิลเวอร์ มองว่า การที่ชาวอเมริกันมองว่ารัสเซียเป็นชาติศัตรูนั้นมีผลทางอ้อมต่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อจีนที่เปลี่ยนมาเป็นคู่แข่งมากกว่าชาติศัตรู

ทั้งนี้ ท่าทีของมุมมองระดับรัฐบาลนั้น พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยระบุไว้ว่าจีนเป็นความท้าทายที่สุดทางแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนนั้นมีแนวโน้มกระท่อนกระแท่นมากขึ้นหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อาทิ ฮ่องกง เกาะไต้หวัน และทะเลจีนใต้ รวมถึงข้อครหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน