รัสเซีย จะขายไฟฟ้าแก่ยูเครน จากโรงไฟฟ้ายูเครนที่รัสเซียยึดครอง

วันที่ 20 พ.ค. บีบีซี รายงานว่า ยูเครนปฏิเสธแผนการของ รัสเซีย ที่จะเชื่อมต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าของรัสเซีย หลังกองทหารรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้าในแคว้นซาโปริฌเฌีย ริมแม่น้ำนีเปอร์ ทางใต้ของยูเครน

โรงไฟฟ้าในแคว้นซาโปริฌเฌียเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เจ้าหน้าที่ยูเครนยังปฏิบัติงานที่นั่น แต่รัสเซียส่งผู้เชี่ยวชาญนิวเคลียร์ของตนเองมาตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ยูเครน

FILE – A power-generating unit at the Zaporizhzhia nuclear power plant in the city of Enerhodar, in southern Ukraine, is shown on June 12, 2008. Russian forces pressed their attack on a crucial energy-producing Ukrainian city by shelling Europe’s largest nuclear plant early Friday, March 4, 2022, sparking a fire and raising fears that radiation could leak from the damaged power station. Plant spokesman Andriy Tuz told Ukrainian television that shells were falling directly on the facility and had set fire to one of the facility’s six reactors. That reactor is under renovation and not operating, but there is nuclear fuel inside, he said. (AP Photo/Olexander Prokopenko, File)

นายมารัต ฮุชนุลลิน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ประกาศที่จะขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าในแคว้นซาโปริฌเฌียแห่งนี้แก่ยูเครน และว่ารัสเซียจะเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าแห่งนี้เข้ากับระบบพลังงานของรัสเซีย หากยูเครนปฏิเสธจ่ายค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแห่งนี้

นายฮุชนุลลินกล่าวระหว่างการเยือนทางใต้ของยูเครนที่รัสเซียยึดครองเมื่อวันพุธที่ 18 พ.ค. ว่า “หากระบบพลังงานของยูเครนพร้อมที่จะรับไฟฟ้าและชำระค่าไฟฟ้า เราจะดำเนินการจ่ายไฟฟ้า แต่หากไม่ดำเนินการเช่นนั้น โรงไฟฟ้าจะผลิตไฟฟ้าแก่รัสเซียเท่านั้น”

นายฮุสนุลลินกล่าวด้วยว่า “ผมคิดว่าอนาคตของภูมิภาคนี้คือการทำงานในครอบครัวรัสเซียที่เป็นมิตรของเรา”

 

อย่างไรก็ตาม นายเลโอนิด โอลีนิค โฆษกของ แอเนอร์โกอะตอม (Energoatom) หน่วยงานนิวเคลียร์ของยูเครน กล่าวกับบีบีซีว่า การเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าแห่งนี้เข้ากับรัสเซียจะต้องใช้เวลาหลายปี

“โรงไฟฟ้าดังกล่าวใช้การเฉพาะในโครงข่ายพลังงานของยูเครน ชาวรัสเซียสามารถสร้างสายไฟฟ้าในทางทฤษฎีได้ แต่จะใช้เวลานาน เช่นเดียวกับสะพานไครเมียของรัสเซียที่จะใช้เวลาหลายปี” นายโอลีนิคอ้างถึงสะพานเชื่อมไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเข้ากับดินแดนของตัวเองในปี 2557

“ตอนนี้โรงไฟฟ้ากำลังทำงานในระดับต่ำสุด แต่ยูเครนยังดูแลรับผิดชอบ สายไฟฟ้าทั้งหมดถูกควบคุมโดยยูเครน ถ้อยแถลงของรัสเซียเป็นความปรารถนาอันแรงกล้า” นายโอลีนิคเสริม

 

 

ปกติโรงไฟฟ้าในแคว้นซาโปริฌเฌียจะผลิตพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครนมากกว่าครึ่งหนึ่ง และร้อยละ 20 ของการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ แต่ตอนนี้เครื่องปฏิกรณ์ทำงานเพียง 2 เครื่องจากทั้งหมด 6 เครื่อง

กองทัพยูเครนยังควบคุมเมืองซาโปริฌเฌีย ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำนีเปอร์ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวตั้งอยู่ในเมืองแอแนร์ฮอดาร์ ที่มีประชากรเกือบ 53,000 คน สร้างขึ้นในสมัยโซเวียตเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยของคนทำงานโรงไฟฟ้าแห่งนี้

ในเมืองแอแนร์ฮอดาร์มีการประท้วงหลายครั้งเพื่อต่อต้านการยึดครองของรัสเซีย แต่กองกำลังความมั่นคงของรัสเซียยิงแก๊สน้ำตาและปาระเบิดแฟลชเพื่อสลายการชุมนุม

 

ทั้งนี้ Energoatom ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. กองกำลังรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้าในแคว้นซาโปริฌเฌีย และต่อมาเข้าควบคุมอาคารรอบเครื่องปฏิกรณ์เครื่องหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย

สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์แห่งสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า ระดับรังสีและความปลอดภัยของเครื่องปฏิกรณ์ไม่ได้รับผลกระทบ

บรรดาผู้นำโลกประณามรัสเซียสำหรับการโจมตีดังกล่าว และประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวหารัสเซียก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์

รัสเซียถล่มโรงไฟฟ้าฟ้านิวเคลียร์

The Zaporizhzhia nuclear power plant in Ukraine, the largest of its kind in Europe, was on fire in the early hours of Friday morning after coming under attack by Russian troops. A live feed from the station showed a line of military vehicles firing at buildings at the nuclear plant, causing flames to break out at the site in the south-east of the country – sparking fears of a radiation disaster in the nation currently under invasion by Russian forces.

IAEA กล่าวว่าสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าในแคว้นซาโปริฌเฌียตอนนี้ยังเปราะบางและไม่ยั่งยืน เนื่องจากกองทหารรัสเซียให้เจ้าหน้าที่อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก รอสอะตอม (Rosatom) หน่วยงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย และ IAEA กล่าวว่ากำลังพยายามเจรจาเพื่อตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว

ส่วนนายโอลีนิค โฆษกของแอเนอร์โกอะตอม กล่าวว่า “พนักงานรู้สึกแย่เนื่องจากแรงกดดันทางเทคนิคมากมาย ชาวรัสเซียจึงทำตัวเป็นผู้ยึดครอง” และว่ารัสเซียกำลังคงทหารราว500 นายและรถหุ้มเกราะ 50 คันที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้

“พวกเขากำลังตรวจสอบเอกสาร ไม่ยอมให้ใครพูดอย่างอิสระและสลายการชุมนุมในเมืองแอแนร์ฮอดาร์” นายโอลีนิคกล่าว และยืนยันว่า “ยูเครนจะปลดปล่อยดินแดนทั้งหมด ไม่มีข้อตกลงกับผู้ยึดครอง”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ใหญ่สุด” ในยุโรป เตือนหายนะหนักกว่าเชอร์โนบิล (คลิป)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน