ผู้นำยูเครนย้ำทางออกสงครามต้องเจรจาหาข้อยุติ มากกว่าการสู้รับกันด้วยกำลัง

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงจุดจบของสงครามในประเทศว่า จะเกิดขึ้นได้จากการเจรจาหาข้อยุติกันมากกว่าชัยชนะจากการสู้รับกันด้วยกำลังทหาร พร้อมเรียกร้องขอการสนับสนุนทางด้านยุทโธปกรณ์เพิ่มอีกแม้ทางการสหรัฐอเมริกาเพิ่งผ่านงบช่วยเหลือ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.4 ล้านล้านบาทให้ยูเครน

คำกล่าวของผู้นำยูเครนยังเกิดขึ้นในช่วงที่ยูเครนพยายามกดดันทางการสหภาพยุโรปหรืออียูให้ช่วยพิจารณาคำขอเข้าเป็นสมาชิกอียู ขณะที่ทางการรัสเซียอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทำลายคลังแสงอาวุธที่บรรดาชาติตะวันตกส่งมาสนับสนุนยูเครนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

ประธานาธิบดีเซเลนสกียังแสดงความไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผู้นำชาติอียูบางชาติรวมถึงประธานาธิบดีเอมมาเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่เสนอให้ตั้งกลุ่มชาติที่ต้องการเข้าเป็นสมาชิกอียูขึ้นมาในระหว่างรอการพิจารณาจากอียู โดยประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่า ยูเครนไม่ต้องการสถานะที่ถูกลดทอนเช่นนั้น เพราะเกรงว่าในที่สุดแล้วจะเป็นสิ่งที่ถูกนำไปใช้แลกเปลี่ยนกับทางการรัสเซีย

ที่มา Genya Savilov/AFP

ด้านการสู้รบดุเดือดที่ภูมิภาคปกครองดอนบัสทางตะวันออกของยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่าสามารถเข้ายึดครองท่าเรือน้ำลึกที่เมืองมาริอูโปลได้อย่างเด็ดขาดและอยู่ระหว่างใช้การโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่กองทัพยูเครนทางตะวันออกของเมืองมาริอูโปลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งใช้จรวดครุยส์ยิงทำลายคลังแสงของยูเครนที่เมืองมาลิน แคว้นฌือตอมือร์

ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีซึ่งเดินทางไปยังเมืองมาริอูโปลด้วยการอารักขาของกองทัพรัสเซีย ระบุว่า เมืองมาริอูโปลถูกทำลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่กลุ่มผู้สื่อข่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้นิคมอุตสาหกรรมเหล็กกล้าอาซอฟสตอล พื้นที่สุดท้ายที่กองทัพยูเครนต่อต้านอย่างไม่คิดถึงชีวิตของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าวยอมรับว่าพื้นที่ข้างต้นถูกโจมตีด้วยจรวดครุยส์ของรัสเซีย 3 ลูก สร้างความเสียหายให้สิ่งปลูกสร้างพลเรือน แต่ไม่ได้เอ่ยถึงคลังอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งมาสนับสนุนว่ามีถูกทำลายจริงตามที่รัสเซียอ้างหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน