บึ้มป้ายรถเมล์นครย่างกุ้ง เผด็จการพม่า-ฝ่ายต่อต้านโบ้ยกันนัว

บึ้มป้ายรถเมล์นครย่างกุ้ง เผด็จการพม่า-ฝ่ายต่อต้านโบ้ยกันนัว

บึ้มป้ายรถเมล์นครย่างกุ้ง – วันที่ 1 มิ.ย. รอยเตอร์รายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดป้ายรถขนส่งประจำทางในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา (พม่า) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 9 คนวานนี้ ว่าสื่อกระบอกเสียงของทางการพม่ากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของฝ่ายต่อต้าน

เหตุที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่เดอะโกลบอลไลท์ออฟเมียนมา สื่อกระบอกเสียงของเผด็จการทหารพม่า ระบุว่า เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายกองกำลังพิทักษ์ประชาชนหรือพีดีเอฟ ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐประหารสถาปนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับกองทัพพม่า

กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) สถาปนาขึ้นโดยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเพื่อต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพพม่า (รอยเตอร์)

กองกำลังติดอาวุธพีดีเอฟมีจำนวนผู้เข้าร่วมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและเปิดปฏิบัติการต่อต้านเผด็จการทหารพม่าในหลายพื้นที่ทั่วประเทศนับตั้งแต่กองทัพพม่าก่อเหตุยึดอำนาจและล้มการเลือกตั้งที่พรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดีมีชัยชนะท่วมท้น เมื่อ 1 ก.พ. 2564

ความเคลื่อนไหวของสื่อกระบอกเสียงเผด็จการทหารพม่าก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายกลาโหมของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจีซึ่งสถาปนาขึ้นโดยบุคคลจากฝ่ายการเมืองประชาธิปไตยที่หนีรอดเงื้อมมือของกองทัพพม่าไปได้

ดร.ซาซา โฆษกรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (รอยเตอร์)

แถลงการณ์ของฝ่ายกลาโหมเอ็นยูจีประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏต่อสังคม

ขณะที่ดร.ซาซา โฆษกเอ็นยูจีระบุผ่านทวีตส่วนตัวว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิด พร้อมกล่าวหาว่าเป็นฝืมือการสร้างสถานการณ์ของกองทัพพม่า

สภาพที่เกิดเหตุในนครย่างกุ้ง (Radio Free Asia)

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ย้ำว่าทั้งสองฝ่ายแม้กล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งแต่นำหลักฐานมาแสดง และทางรอยเตอร์ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้

ทั้งนี้ ประเทศพม่ากำลังเผชิญกับภาวะมิคสัญญีทางการเมืองหลังการรัฐประหารของกองทัพเมื่อ 1 ก.พ. 2564 ส่งผลให้ชาวพม่าลุกขึ้นประท้วงและต่อต้านทั่วประเทศ

สภาพที่เกิดเหตุในนครย่างกุ้ง (Radio Free Asia)

ข้อมูลจากองค์กรอิสระอย่างสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองหรือเอเอพีพี ระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากการปราบปรามของกองทัพพม่าแล้วอย่างน้อย 1,800 ราย ขณะที่กองทัพพม่าปฏิเสธข้อมูลของเอเอพีพีและตอบโต้ว่าเป็นตัวเลขที่สูงเกินจริง

การตรวจสอบข้อมูลความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามของกองทัพพม่านั้นล่าสุดทำได้ยากมากเนื่องจากการต่อสู้กันเกิดขึ้นหลายพื้นที่และขยายตัวจากเมืองใหญ่ไปตามพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล