หนุ่มมะกันปวดท้อง-หายใจลำบากเป็นประจำ พบแพทย์ช็อกหนักมาก เจอท่อช่วยหายใจ 10 นิ้ว ติดอยู่ในท้องนาน 30 ปี

นิวยอร์กโพสต์รายงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนครนิวยอร์กอันแสนตะลึง โดยชายชาวควีนส์คนหนึ่งมีอาการค่อย ๆ หายใจลำบากและปวดท้องเป็นพัก ๆ จนทนไม่ไหว เร่งส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทว่าสาเหตุของอาการนั้นค่อนข้างสร้างความช็อกให้กับทุกคน โดยผู้ป่วยมีท่อช่วยหายใจขนาด 10 นิ้วในร่างกายเป็นระยะเวลานาน 30 ปี

เรเน่ รีมาเช วัย 39 ปีให้สัมภาษณ์ว่า “ผมแค่รู้สึกโกรธเล็กน้อย เพียงเพราะพวกเขาทิ้งสิ่งนี้ไว้ในตัวผม มันอาจจะแย่กว่าผลลัพธ์ที่ได้ ผมอยากจะขอบคุณพระเจ้าที่ผมยังอยู่มีชีวิตอยู่ ไม่งั้นผมอาจจะไม่ได้เลี้ยงลูกสาวแสนสวยของผมมา”

ภาพจาก Handout Photos/ Newyork Post

เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นที่เรเน่ อายุเพียง 6 ขวบตกจากหน้าต่างชั้นสองในเดือนเมษายน 1989 ตอนนั้นเขาอาศัยอยู่ที่วูดไซด์กับปู่ย่าตายาย ซึ่งอพยพมาจากเอกวาดอร์ เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเอล์มเฮิร์สต์ด้วยกะโหลกศีรษะแตก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและท่อหายใจ

ตามเวชระเบียนรายงานผลการรักษาครั้งนั้น พบว่าเรเน่มีภาวะกระสับกระส่าย แม้จะมีเครื่องช่วยหายใจแต่หายใจไม่สอดคล้องกับเครื่องช่วยหายใจเป็นระยะหลายชั่วโมงต่อมา เรเน่ถึงสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้

เรเน่กล่าวว่า เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่เขาได้รับการสวมใส่ท่อช่วยหายใจและทนายความของเขาเชื่อว่า อุปกรณ์บางส่วนทางการแพทย์หรือทั้งหมดจะค้างคาอยู่ในร่างกายของเขาตั้งแต่รักษา แต่แพทย์ไม่ได้สังเกต

ภาพจาก Handout Photos/ Newyork Post








Advertisement

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรเน่กล่าวว่าเขาป่วยเป็นโรคกระเพาะเป็นระยะ ซึ่งมักจะได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลเดิม แต่พยายามรักษาหลายวิธีก็ไม่เป็นผล ซึ่งเรเน่ต้องทานยาตลอดในการรักษาพยาบาล แต่โรงพยาบาลไม่เคยทำการทดสอบใด ๆ ที่สามารถค้นพบท่อได้ระหว่างที่เขารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินหลายครั้ง

“ผมมาโรงพยาบาลสองสามครั้งเพราะปวดท้อง อาเจียน และเจ็บปวด ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันมาจากไหน และสุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะรักษามันเหมือนแค่เรื่องปวดท้องทั่ว ๆ ไปแล้วก็หยุดรักษา ไม่มีใครสามารถบอกผมได้ว่ามันคืออะไร”
ต่อมาเมื่อปี 2019 อาการต่าง ๆ ของเรเน่ยิ่งแย่ลงกว่าปกติ เขาเกิดอาการปวดท้องรุนแรงอย่างกะทันหันและหายใจลำบาก โดยเกิดขึ้นขณะท่องเที่ยวทริปครอบครัวที่เม็กซิโก เขากล่าวว่า “มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่บริเวณหน้าอกและลำคอของผม ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน และผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ที่นั่น บางอย่างรบกวนการหายใจของผมจริง ๆ” เรเน่กล่าวว่าคลินิกแห่งหนึ่งในเม็กซิโกกล่าวว่าเขาเป็นโรคหลอดลมอักเสบและส่งยาปฏิชีวนะตามใบสั่งแพทย์ แต่อาการไม่สบายก็ไม่บรรเทาลง

เมื่อเรเน่กลับมาที่นิวยอร์ก เขาตัดสินใจทำการทดสอบตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วยรังสีเอกซ์ที่ศูนย์การแพทย์ซีนายก็พบกับความตกใจสุดขีด มีท่อช่วยหลายใจขนาด 10 นิ้ววางอยู่ภายในตามส่วนโค้งบริเวณท้องของเขา ในที่สุดท่อช่วยหายใจก็ถูกนำออกโดยศัลยแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ไมโมนิเดสเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2019

ต่อมาเรเน่ยื่นฟ้องเพื่อให้สถานพยาบาลเอลม์เฮิสต์และเจ้าของสถาบัน New York City Health and Hospitals ในการยื่นฟ้องทางกฎหมาย ทางสถานบันยืนกรานว่าท่อช่วยหายใจที่พบในร่างกายของเรเน่ในปี 2019 นั้นแตกต่างจากท่อที่เขาเคยถูกใส่ท่อช่วยหายใจเมื่อตอนเป็นเด็ก พร้อมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ

เรเน่กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะใส่กรอบท่อช่วยหายใจ เมื่อการดำเนินคดีสิ้นสุดลง “ผมจะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำของบางสิ่งที่อาจทำให้ผมตายได้ แต่ผมจะไม่บอกเล่าเรื่องราวของผมให้ลูกสาวฟัง” โดยทั้งสองฝ่ายก็ขึ้นศาลและการพิจารณาคดีจะมีขึ้นในวันที่ 11 ตุลาคมปีนี้

ขอบคุณที่มาจาก New York Post

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน