ม็อบพนง.การรถไฟผู้ดีฮือ หยุดงานประท้วงค่าแรงใหญ่สุดรอบ30ปี
ม็อบพนง.การรถไฟผู้ดีฮือ – วันที่ 21 มิ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า พนักงานการรถไฟบางส่วนของประเทศอังกฤษที่มีอยู่กว่า 4 หมื่นคน พร้อมใจกันหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี หลังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการขึ้นค่าแรง ส่งผลให้ระบบขนส่งทางรางเกือบเป็นอัมพาต
การหยุดงานประท้วงที่เกิดขึ้นทำให้สถานีรถไฟในเมืองใหญ่หลายแห่งแทบไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล และรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนนั้นแทบจะต้องปิดให้บริการทั้งหมด
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า การหยุดงานประท้วงที่เกิดขึ้นของสหภาพพนักงานการรถไฟจะส่งผลกระทบต่อบรรดาธุรกิจเอกชนที่กำลังอยู่ในภาวะกระเสือกกระสนฟื้นตัวจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19
ขณะที่สหภาพพนักงานการรถไฟ ระบุว่า การหยุดงานประท้วงนั้นอาจเป็นจุดเริ่มของฤดูร้อนแห่งความไม่พอใจของผู้คนในอาชีพอื่นๆ ด้วย ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกที่ทำให้ราคาสินค้าและพลังงานปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง
นายมิก ลินช์ เลขาธิการใหญ่สหภาพพนักงานการรถไฟและการขนส่งทางทะเล (RMT) ระบุว่า พนักงานชาวอังกฤษกำลังต้องการให้ขึ้นค่าแรง
“พวกเขาต้องการความมั่นคงทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี และสัญญาการจ้างที่ยุติธรรมจากภาครัฐ หากพวกเราได้รับสิ่งที่เรียกร้องเหล่านี้แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องประท้วงสร้างความเสื่อมถอยให้เศรษฐกิจของชาติ แต่หากไม่ได้รับก็อาจจะประท้วงต่อไปตลอดฤดูร้อน”
นายจอห์นสัน กล่าวตอบโต้บรรดาผู้ประท้วงว่ากำลังทำร้ายผู้คนที่ตามหน้าที่แล้วต้องคอยช่วยเหลือ เนื่องจากการหยุดงานประท้วงจะยิ่งการรถไฟยิ่งขาดรายได้เพื่อไว้ใช้จ่ายค่าแรงให้พนักงาน และทำให้ธุรกิจอื่นได้รับผลกระทบ
ขณะที่พรรคฝ่ายค้านวิพากวิจารณ์รัฐบาลอังกฤษว่าไม่ยอมลงไปเจรจาในรายละเอียดกับกลุ่มผู้ประท้วง หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอ้างว่า เป็นเรื่องที่พนักงานการรถไฟจะต้องตกลงกับการรถไฟเอง
ทั้งนี้ สภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษกำลังอยู่ในภาวะถดถอย แม้จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ การขาดแคลนแรงงาน ปัญหาการขนส่งสินค้า และอุปสรรคจากการที่อังกฤษลาออกจากสมาชิกภาพของสหภาพยุโรปหรืออียู
