คดีหมิ่นศาสนาลาม พิษร้านโฮลี่วิงส์ทำอินโดฯปิดสถานบันเทิงอื้อ
คดีหมิ่นศาสนาลาม – วันที่ 28 มิ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการอินโดนีเซียมีคำสั่งปิดสถานบันเทิงอย่างน้อย 6 แห่ง ที่กรุงจาการ์ตา หลังกรณีพนักงาน 6 คน ของร้านโฮลี่วิงส์ถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นศาสนาเนื่องจากเผยแพร่โฆษณาที่มีเนื้อหาจาบจ้วงพระศาสดานบี มูฮัมหมัด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมพนักงานกลุ่มดังกล่าวที่ร่วมกันเผยแพร่โปรโมชั่นทางโลกออนไลน์ โดยเสนอจะมอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ฟรีกับบุคคลที่ชื่อ “โมฮัมหมัด” และ “มาเรีย”
REUTERS
โปรโมชั่นดังกล่าวส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากผู้นับถือศาสนาและแจ้งความต่อตำรวจ ขณะที่ทางร้านโฮลี่วิงส์นั้นออกแถลงการณ์ขอโทษสังคมพร้อมอ้างว่าพนักงานทั้ง 6 คน กระทำการโดยที่ฝ่ายบริหารไม่ได้มีส่วนรู้เห็น
แม้เหตุที่เกิดขึ้นสร้างเดือดดาลให้กับผู้นับถือศาสนาจำนวนมากเนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสิ่งต้องห้ามในประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก แต่นักวิจารณ์มองว่ากฎหมายหมิ่นศาสนากำลังถูกนำมาใช้มากเกินไปและบ่อนทำลายบรรยากาศเสรีภาพ
REUTERS
ด้านตำรวจชี้แจงถึงการปิดสถานบันเทิงอีก 6 แห่ง ว่ามีสาเหตุมาจากการไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนพนักงาน 6 คน ที่ถูกจับนั้นหากพบว่ามีความผิดหมิ่นศาสนาอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และความผิดตามกฎหมายไซเบอร์เป็นจำคุกอีกไม่เกิน 10 ปี
นายแอนเดรียส ฮาร์โซโน นักวิจัยสิทธิมนุษยชนในอินโดนีเซีย กล่าวว่า กฎหมายทั้งสองฉบับข้างต้นกำลังทำให้บรรยากาศเสรีภาพในโลกออนไลน์นั้นอันตรายมากขึ้น
“จริงอยู่ที่พฤติกรรมของพนักงานทั้ง 6 คน อาจเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจในประเทศนี้ แต่ตามมาตรฐานสากลแล้วไม่ถือว่าเป็นอาชญากรรมแต่อย่างใด” นายฮาร์โซโน ระบุ
กฎหมายหมิ่นศาสนาในอินโดนีเซียนั้นมักใช้กับบุคคลที่จาบจ้วงศาสนา ในจำนวนนี้ รวมถึงนายบาซูกี อาฮก ปุร์นามา อดีตผู้ว่ากรุงจาการ์ตา ที่เป็นคริสตศาสนิกชน ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี เมื่อปี 2560 แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
ทั้งนี้ มีบุคคลถูกพิพากษาลงโทษด้วยกฎหมายทั้งสองฉบับนี้แล้วราว 150 คน ในอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลศาสนาอื่นที่เป็นส่วนน้อยในอินโดฯ นับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ในปี 2508
