รัสเซียเย้ยซ้ำ นายกฯอังกฤษแถลงลาออก ปมพฤติกรรมแย่-แก้ปัญหาเหลว

รัสเซียเย้ยซ้ำ – วันที่ 7 ก.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการรัสเซียแถลงแสดงความยินดีกรณีนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแถลงลาออกจากตำแหน่ง ส่วนนักธุรกิจรัสเซียเรียกนายบอริสว่าเป็น “ตัวตลกหน้าโง่” ซึ่งได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสมจากการสนับสนุนทางการยูเครน

รายงานระบุว่า นายจอห์นสัน เป็นนักการเมืองที่ชูนโยบายนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปหรืออียูเมื่อปี 2559 และชนะเลือกตั้งในปี 2562 ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังบรรดารัฐมนตรีหลายคนทยอยยื่นจดหมายลาออกเพื่อกดดันให้นายจอห์นสันลาออกจากตำแหน่ง

นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า นายจอห์นสันเป็นบุคคลที่ไม่มีความนิยมชมชอบต่อรัสเซียอย่างชัดเจน และเช่นเดียวกันรัสเซียก็ไม่มีความนิยมชมชอบนายจอห์นสันเช่นกัน

ส่วนบรรดานักการเมืองและนักธุรกิจใหญ่ในรัสเซียนั้นต่างเรียงแถวกันออกมากล่าวส่งนายจอห์นสันกันอย่างเผ็ดร้อน อาทิ นายโอเลก เดริปาสกา หนึ่งในนักธุรกิจชั้นนำของรัสเซีย ระบุผ่านเทเลแกรมว่าเป็น “จุดจบที่น่าอัปยศ” ของ “ตัวตลกหน้าโง่”

นายวยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ระบุว่า “ตัวตลกไปเสียแล้ว” และว่านายจอห์นสันเป็นหนึ่งในผู้นำที่สนับสนุนยูเครน จึงขอให้บรรดาผู้นำชาติยุโรปอื่นๆ ดูไว้เป็นสิ่งเตือนใจว่าปลายทางนั้นลงเอยอย่างไร

นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า จุดจบของนายจอห์นสันนั้นมาจากความเสื่อมถอยของชาติตะวันตก ทั้งในมิติของการเมือง จิตสำนึก และเศรษฐกิจ

“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพยายามทำลายรัสเซีย เพราะรัสเซียนั้นไม่มีวันถูกทำลายได้ ถ้ากัดเรา ฟันท่านก็แตกเสียเอง แล้วก็คงติดคอตายเอง” นางซาคาโรวา กล่าวเยาะเย้ย

รัสเซียเย้ยซ้ำ

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงลาออกจากตำแหน่ง ที่ดาวนิ่งสตรีท กรุงลอนดอน โดยจะรักษาการณ์ตำแหน่งไปจนกว่านายกฯ คนใหม่จะได้รับเลือกขึ้นมา (รอยเตอร์)

บีบีซีระบุถึงสาเหตุหลายประการที่ทำให้นายจอห์นสันต้องยอมลาออกว่ามาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะนายกฯ ล่าสุดเป็นกรณีนายคริส พินเชอร์ รองประธานวิปรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศชาย 2 คน ที่กรุงลอนดอน นำไปสู่การขุดคุ้ยพฤติกรรมในล่วงละเมิดในอดีต

ขณะที่แถลงการณ์ของสำนักนายกฯ กลับระบุว่านายจอห์นสันที่เป็นผู้แต่งตั้งนายพินเชอร์ไม่เคยรับรู้ประวัติการคุกคามทางเพศของนายพินเชอร์มาก่อน แต่ข้อเท็จจริงเป็นที่ปรากฎต่อมาว่านายจอห์นสันรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วหลายครั้ง จึงกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายทางการเมือง

กรณีข้างต้นเกิดขึ้นหลังกรณี “ปาร์ตี้เกต” เป็นผลการสืบสวนที่ปรากฎข้อเท็จจริงว่านายจอห์นสันลักลอบเข้าร่วมงานปาร์ตี้วันคล้ายวันเกิดของตัวเองเมื่อเดือนมิ.ย. 2563 ที่ดาวนิ่งสตรีท เป็นการละเมิดข้อห้ามภายใต้ประกาศล็อกดาวน์ที่ตนเองในฐานะรัฐบาลเป็นผู้ประกาศ ช่วงการระบาดหนักของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 สุดท้ายถูกปรับเป็นเงินตามกฎหมาย

ด้านเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนก็ถูกมองว่านายจอห์นสันยังดำเนินการไม่เพียงพอจากปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูงด้วยปัญหาเงินเฟ้อร้อยละ 9.1 และราคาเชื้อเพลิง รวมถึงค่าอาหาร ทำให้นายจอห์นสันสั่งเพิ่มภาษีเพื่อนำมาใช้จ่ายสวัสดิการรัฐ สร้างความโกรธแค้นให้ประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน