วันที่ 11 ต.ค.บีบีซีรายงานว่า นายจอห์น หลี่ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเขตบริหารพิเศษของจีนจะไม่ยึดเรือซูเปอร์ยอชต์ของเศรษฐีรัสเซีย ซึ่งถูกชาติตะวันตกลงโทษทางเศรษฐกิจหรือแซงก์ชั่น เนื่องจากนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียบุกยูเครนเมื่อ 24 ก.พ.2564 โดยให้เหตุผลว่า ฮ่องกงจะทำตามมติการแซงก์ชั่นของสหประชาชาติหรือยูเอ็น แต่ไม่ใช่การสั่งแซงก์ชั่นโดยฝ่ายเดียวซึ่งกระทำโดยเขตอำนาจศาลส่วนบุคคล
เรือซูเปอร์ยอตช์ของมหาเศรษฐีรัสเซียจอดที่ฮ่องกง เมื่อ 7 ต.ค. (รอยเตอร์)
นอร์ด เรือซูเปอร์ยอชต์ธงรัสเซีย ขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอล และประกอบด้วยหลายชั้น มูลค่า 521 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 19,000 ล้านคนบาท เป็นของนายอเล็กซี มอร์ดาชอฟ พันธมิตรของนายปูติน และหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของประเทศจากธุรกิจเหล็กและเหมืองแร่
เรือยอชต์แล่นจากรัสเซียมาถึงฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เชื่อว่านายมอร์ดาชอฟไม่ได้อยู่บนเรือด้วย นายมอร์ดาชอฟถูกแซงก์ชั่นจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปหรืออียู รัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ฮ่องกงไม่ได้ถูกผูกมัดว่าต้องทำตามการแซงก์ชั่นดังกล่าว ซึ่งเรือจอดที่ท่าเรือวิกตอเรีย ฮาร์เบอร์ของฮ่องกงเกือบถึงสัปดาห์แล้ว
“เราจะปฏิบัติตามการแซงก์ชั่นของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นระบบและหลักนิติธรรมของเรา”นายหลี่กล่าว ซึ่งตัวนายหลี่เองเป็นบุคคลที่ถูกสหรัฐแซงก์ชั่น เนื่องจากมีบทบาทในบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงของฮ่องกง ซึ่งถูกตะวันตกวิจารณ์ว่า มีจุดประสงค์เพื่อปราบม็อบ
สหรัฐ อียูและสหราชอาณาจักรแซงก์ชั่นชาวรัสเซียหลายร้อยคนรวมถึงธุรกิจของบุคคลเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นพันธมิตรรัสเซียและจนปัจจุบันยังไม่ประณามการตัดสินใจของรัสเซียในการบุกยูเครน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า ชื่อเสียงของฮ่องกงในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการเงินขึ้นอยู่กับการทำตามมาตรฐานและกฎหมายระหว่างประเทศ ความเป็นไปได้ในการใช้ฮ่องกงเป็นที่หลบภัยของบุคคลที่หลบเลี่ยงแซงก์ชั่นจากหลายเขตอำนาจศาลยิ่งถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใส่และสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจ
นายมอร์ดาชอฟเคยเสียเรือเลดี้ เอ็ม เรือยอตช์ลำเล็กกว่านี้จากการแซงก์ชั่นของตะวันตก ซึ่งถูกตำรวจอิตาลียึดไว้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา เรือยอร์ตหลายลำของเศรษฐีรัสเซียถูกยึดหรือถูกปฏิเสธเข้าท่าเรือยุโรปในปีนี้ ตามมาตรการแซงก์ชั่นอันเกี่ยวเนื่องกับสงครามยุเครน ทำให้เรือรัสเซียแล่นไปทั่วโลกเพื่อให้รอดพ้นจากการแซงก์ชั่นรวมถึงเอเชีย ตุรกีและกลุ่มประเทศแถบแคริบเบียน
……….
