สะเทือนโลก! เมตา บริษัทแม่เฟซบุ๊ก จ่อปลดพนักงานครั้งใหญ่ หลังขาดทุนหนัก

สะเทือนโลก! เมตา บริษัทแม่เฟซบุ๊ก จ่อปลดพนักงานครั้งใหญ่ หลังขาดทุนหนักเป็นประวัติศาสตร์ พร้อมลุยลงทุนเมตาเวิร์ส

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 65 สำนักข่าวรอยเตอร์เผยรายงานของหนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัลว่า บริษัทยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียอย่าง เมตาแพลตฟอร์ม ที่เป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เตรียมประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวนมากในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพนักงานทั่วโลกของบริษัทมากกว่า 8,000 คน หรืออย่างน้อย 10% จากพนักงานทั้งหมด 87,000 คน

หลังบริษัทขาดทุนหนักต่อเนื่อง พร้อมนำเงินส่วนที่ลดลงได้ไปลงทุนต่อในธุรกิจเมตาเวิร์ส (Metaverse) ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทาง “เมตา แพลตฟอร์ม” ยังคงปฏิเสธที่จะออกมาพูดถึงเรื่องนี้

ภาพจาก Facebook Chairman and CEO Mark Zuckerberg testifies at a House Financial Services Committee hearing in Washington, U.S., October 23, 2019. REUTERS/Erin Scott

แนวโน้มที่น่าผิดหวังเกิดขึ้นเมตากำลังเผชิญกับปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกและขาดทุนอย่างหนัก รวมถึงมูลค่าในตลาดหุ้นที่ลดลงราว 67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมทั้งมีการแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญอย่างติ๊กต็อก ข้อกำหนดของแอปเปิ้ลที่ลดความสามารในการยิงโฆษณา รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายจำนวนมากในเมตาเวิร์ส ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ไตรมาสหน้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก การประกาศเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 18 ปีของเมตา

ประกอบกับเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ซีอีโอของเมตาเคยเปรยลดแผนการจ้างวิศวกรอย่างน้อย 30% พร้อมเตือนพนักงานให้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทรายงานว่า แผนกเมตาเวิร์สของบริษัท ขาดทุน 3.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา และกล่าวว่าการสูญเสียเหล่านี้จะ “เติบโตอย่างมีนัยสำคัญทุกปี” ในปี 2566

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของเมตา เคยแถลงไว้ว่า แผนการลงทุนในปี 2566 จะมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต ซึ่งหมายความว่าบางทีมจะเติบโตขึ้น แต่อาจทำให้ไม่มีการขยายทีมหรือหยุดการจ้างงานและหยุดพัฒนาโครงการต่าง ๆ พร้อมกับการลดขนาดจำนวนพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายบริษัทในปีหน้า

พร้อมกล่าวเสริมว่า บริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ การโฆษณา และเมตาเวิร์ส (Metaverse) เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Corp , Twitter Inc หรือ Snap Inc. ได้ปลดพนักงานและปรับลดการจ้างงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และวิกฤตด้านพลังงานในยุโรป.

ขอบคุณที่มาจาก AFP Reuter