เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เอพีรายงานผลงานการค้นพบโบราณสถานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เมื่อนักวิจัยใช้ภาพถ่ายเลเซอร์ทางอากาศตรวจจับพื้นที่โบราณสถานในจังหวัดเปเตน ของกัวเตมาลา เป็นอาณาจักรมายัน ซึ่งเคยรุ่งเรือง 500 ปีก่อนคริสตกาล และมีความเป็นไปได้สูงว่ามีประชากรอยู่ในพื้นที่นี้มากกว่าหลายล้านคน

อาณาจักรมายันเคยรุ่งเรืองอยู่ในพื้นที่เม็กซิโก กัวเตมาลา และเบลิซ ในอเมริกากลางปัจจุบัน ซึ่งนักวิจัยด้านโบราณคดีจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปใช้เทคโนโลยีระดับสูงที่ชื่อว่าไลดาร์ (Lidar)ในการถ่ายภาพจากอากาศ พร้อมกับใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ตรวจจับพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าว พบว่าเคยมีบ้านของชาวมายันหลายหลัง สิ่งก่อสร้างต่างๆ แนวรั้วกำแพงป้องกันเมืองและพีระมิด รวมไปถึงระบบชลประทาน และไร่นา

ภาพดิจิตัลสามมิติ จำลองโบราณสถานชาวมายันที่พบในกัวเตมาลา This digital 3D image provided by Guatemala’s Mayan Heritage and Nature Foundation, PACUNAM (AP)

จากสิ่งที่ค้นพบทางนักวิจัยเชื่อว่าน่าจะมีประชากรเคยอยู่อาศัยในพื้นที่มายาต่ำ นี้ราวกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเป็นเนื่องจากมีระบบชลประทาน บ้านเรือนและการเกษตรเพื่อผลิตอาหารป้อนให้กับประชากร

นายมาร์เซลโล เอ กานูโต อาจารย์จากภาควิชามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยทูเลน จากสหรัฐระบุว่า จำนวนประชากรน่าจะมีมากกว่าจำนวนที่เคยมีคนพูดถึงไว้ก่อนหน้าประมาณ 2 ถึง 3 เท่า

ส่วนนายฟราซิสโก เอสตราดา-เบลลิ ผู้ช่วยวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดียวกันนี้ระบุว่าในพื้นที่ที่ทำวิจัยมีการทำเกษตรกรรมอย่างกว้างขวาง และยั่งยืนกว่าที่ทางกลุ่มวิจัยคิด ซึ่งชาวมายันที่ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงเมือง

(Wild Blue Media/National Geographic)

ขณะที่นายโธมัส เกร์ริสัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา จากวิทยาลัยอิธากา สหรัฐระบุในทิศทางเดียวกันว่าแผยที่เผยให้เห็นการทำคลองขนาดใหญ่ที่สามารถผันน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาเพื่อเพาะปลูกได้

ทั้งนี้ การใช้ไลดาร์ในการร่างแผนที่ยังพบสิ่งปลูกสร้างกว่า 60,000 แห่ง รวมไปถึง สำหรับทำพิธีกรรมของชาวมายัน 4 แห่งที่ประกอบด้วยลานกว้างและพีระมิด

นอกจากนี้ทางนักวิจัยยังระบุเพิ่มว่าที่นี้ไม่เหมือนกับอารยธรรมโบราณอื่นๆ ที่ถูกทำลายด้วยการทำเกษตรกรรมของชนรุ่นหลัง แต่พื้นที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้าง และซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ขึ้นมาปกคลุมพื้นที่

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน