จีน เตรียมลงโทษชาวเน็ต "ถูกใจ" โพสต์ประท้วงนโยบาย "ซีโร่โควิด"

จีน เตรียมลงโทษชาวเน็ต “ถูกใจ” โพสต์ประท้วงนโยบาย “ซีโร่โควิด”

วันที่ 30 พ.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าการประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ซ้ำซากเพื่อกวาดล้างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 -ของจีนว่า อีกไม่นานนี้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในจีนจะต้องรับผิดจากการกดถูกใจโพสต์ที่ถือมีความผิดทางกฎหมายหรืออันตราย

นับเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามผู้เห็นต่างทางออนไลน์ ท่ามกลางความโกรธของสาธารณชนที่เพิ่มขึ้นต่อข้อจำกัดโควิดที่เข้มงวดของจีน จึงเกิดความกังวลว่า จีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่สองของโลกมีแผนที่จะควบคุมสื่อสังคมออนไลน์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กฎระเบียบใหม่ข้างต้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางชุดใหม่ที่องค์การโลกเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (Cyberspace Administration of China – CAC) เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการกิจการโลกเทคโนโลยีไซเบอร์กาง ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน

Riot police in personal protection suits (PPE) move in formation while holding up shields during protests over coronavirus disease (COVID-19) restrictions in Guangzhou, Guangdong province, China in this screen grab taken from a social media video released November 30, 2022. / A riot police vehicle from the special police force arrives during protests over coronavirus disease (COVID-19) restrictions, in Guangzhou, Guangdong province, China in this screen grab taken from a social media video released November 29, 2022. Video Obtained by Reuters/via REUTERS THIS IMAGE HAS BEEN SUPPLIED BY A THIRD PARTY. MANDATORY CREDIT. NO RESALES. NO ARCHIVES.

กฎระเบียบดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงไม่กี่วันมานี้ และจะมีผลเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังกระแสความโกรธของประชาชนเริ่มแผ่ขยายไปทั่วประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ตั้งแต่ปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้ โดยผู้ประท้วงหลายพันคนประท้วงในเมืองต่างๆ กว่า 12 แห่งในช่วงสุดสัปดาห์เรียกร้องยุติข้อจำกัดโควิดอันเข้มงวดของประเทศ และเรียกร้องเสรีภาพทางการเมือง

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบันทึกภาพหน้าจอของเนื้อหาเกี่ยวกับการประท้วงเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน และใช้รหัสอ้างอิงในข้อความเพื่อหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามสกัดกั้นอินเทอร์เน็ตของผู้เห็นต่าง

กฎระเบียบนี้เป็นฉบับปรับปรุงของจากที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ในปี 2560 เป็นครั้งแรกที่ระบุว่าต้องมีการควบคุม “การถูกใจ” ของโพสต์สาธารณะพร้อมความคิดเห็นประเภทอื่นๆ บัญชีสาธารณะจะต้องตรวจสอบทุกความคิดเห็นภายใต้โพสต์ของผู้ใช้ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าเนื้อหาประเภทใดที่ถือเป็นความผิดทางกฎหมายหรือเป็นอันตราย

Demonstrators protesting over coronavirus disease (COVID-19) restrictions throw glass bottles towards riot police in Guangzhou, Guangdong province, China in this screen grab taken from a social media video released November 30, 2022. Video Obtained by Reuters/via REUTERS THIS IMAGE HAS BEEN SUPPLIED BY A THIRD PARTY. MANDATORY CREDIT. NO RESALES. NO ARCHIVES. THIS PICTURE WAS PROCESSED BY REUTERS TO ENHANCE QUALITY. AN UNPROCESSED VERSION HAS BEEN PROVIDED SEPARATELY.

ข้อบังคับระบุว่า เว็บไซต์ออนไลน์ทั้งหมดต้องตรวจสอบความถูกต้องของตัวตนจริงของผู้ใช้ก่อนอนุญาตให้ผู้ใช้ส่งความคิดเห็นหรือถูกใจโพสต์ ผู้ใช้จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยให้หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือหมายเลขเครดิตทางสังคม

แพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมดต้องจัดตั้งทีมตรวจสอบและแก้ไขสำหรับการติดตามเรียลไทม์ รายงาน หรือลบความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่าง ความคิดเห็นบนเนื้อหาข่าวต้องได้รับการพิจารณาจากเว็บไซต์ ก่อนสามารถปรากฏทางออนไลน์ได้

ทุกแพลตฟอร์มยังจำเป็นต้องพัฒนาระบบเรตติงเครดิตสำหรับผู้ใช้ตามการแสดงความคิดเห็นและการถูกใจ ผู้ใช้ที่มีเรตติงต่ำจะถือเป็นผู้ไม่ภักดีและจะถูกขึ้นบัญชีผู้ใช้ถูกบล็อก และถูกกีดกันจากการลงทะเบียนบัญชีใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
จีน ยันนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ผู้ชุมนุมกวางโจวยี้ล็อกดาวน์-ปะทะเดือด “คฝ.”