ช็อกบินตกเนปาล ซากเครื่องเกลื่อนกลาด-หวังปาฏิหาริย์ช่วย72ชีวิต

ช็อกบินตกเนปาล – วันที่ 15 ม.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารรุ่น เอทีอาร์ 72 ของสายการบินเยติ แอร์ไลนส์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 72 ชีวิต ประสบเหตุตกที่ภาคกลางของประเทศเนปาล ถือเป็นเหตุเครื่องบินตกครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ในเนปาล

นายซูดาร์ชาน บาร์ตอลา โฆษกสายการบินเยติ แอร์ไลนส์ กล่าวว่า เครื่องเอทีอาร์ 72 ของทางสายการบินนั้นประสบเหตุตกระหว่างท่าอากาศยานเก่าและใหม่ในมหานครโปขรา เมืองเอกของรัฐคัณฑกี ซึ่งเป็นเมืองที่ประชากรมากเป็นอันดับที่สองรองจากกรุงกาฐมาณฑุ

ช็อกบินตกเนปาล

REUTERS

ขณะที่พยานที่เกิดเหตุ ระบุว่า จุดตกนั้นเต็มไปด้วยเศษซากของเครื่องบินและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งควบคุมเพลิง สอดคล้องกับภาพที่ปรากฎบนโลกโซเชียลเผยให้เห็นควันดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้าจากซากเครื่องบินที่ดารดาษกลาดเกลื่อนไปทั่วจุดเกิดเหตุ

ทางการพบผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 62 ราย ขณะที่ทางการสายการบินเปิดเผยว่า มีผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติด้วย 15 ราย แบ่งเป็นชาวอินเดีย รัสเซีย และเกาหลีใต้

รายงานระบุว่า อุตสาหกรรมการบินในประเทศเนปาลกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่องทางที่ผู้คนนิยมใช้เพื่อเดินทางและส่งสินค้าไปตามพื้นที่ที่เข้าถึงยากในเนปาล รวมถึงการขนส่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวและปีนเขา

ช็อกบินตกเนปาล

REUTERS








Advertisement

ท่ามกลางความน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยจากการฝึกฝนบุคลากรและการบำรุงรักษาเครื่องบินที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้สหภาพยุโรปหรืออียู มีคำสั่งห้ามสายการบินทุกสายจากเนปาลเข้ามายังน่านฟ้าของอียู

นอกจากนี้ เนปาลยังเป็นชาติที่มีสนามบินอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงได้ยากเพราะสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยหุบเขาสูงสลับซับซ้อนส่งผลให้การนำเครื่องขึ้นลงนั้นได้รับขนานนามว่าเป็นหนึ่งในชาติที่มีรันเวย์ท้าทายที่สุดในโลกแม้แต่สำหรับนักบินที่มีความชำนาญก็ตาม ตลอดจนสภาพอากาศที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ เหตุตกล่าสุดเกิดขึ้นต่อจาเหตุเมื่อเดือนพ.ค. 2565 ของสายการบินทารา แอร์ไลนส์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 22 ราย แบ่งเป็นชาวเนปาล 16 ราย อินเดีย 4 ราย และเยอรมันอีก 2 ราย ระหว่างออกเดินทางจากสนามบินโปขราไปยังเมืองจอมซอม หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักปีนเขา

ช็อกบินตกเนปาล

REUTERS

เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลามากกว่า 1 วัน ในค้นหาซากเครื่อง สุดท้ายพบอยู่บนหุบเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 4,400 เมตร สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าและปีนเขาเท่านั้น ส่งผลให้ทางการเนปาลออกระเบียบใหม่ว่าจะอนุญาตให้เครื่องขึ้นบินเฉพาะสภาพอากาศแจ่มใสเท่านั้น

ส่วนเหตุเครื่องตกครั้งร้ายแรงนั้นเกิดขึ้นในเดือนมี.ค. 2561 เป็นเครื่องของสายการบิน ยูเอส-บังกลา แอร์ไลนส์ มีผู้เสียชีวิต 51 ราย ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ หนึ่งในสนามบินที่การนำเครื่องลงนั้นท้าทายที่สุดในโลก ฃ

ถือเป็นเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุเครื่องของสายการบินปากีสถาน แอร์ไลนส์ ตกเมื่อปี 2535 คร่าชีวิตลูกเรือและผู้โดยสารรวม 167 ราย เพียง 2 เดือนต่อจากเหตุเครื่องของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ 311 ขนภูเขาใกล้กับสนามบินเดียวกันคร่าชีวิตผู้คนทั้งหมด 113 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน